ทำหญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบ ฝ่ายหญิงฟ้องเรียกเงินค่าเลี้ยงดูบุตรได้หรือไม่ ?

            ฉันจะทำทำอย่างไรดีค่ะคุณทนาย ? “เมื่อฝ่ายชายทำหนูท้องแล้วเขาไม่รับเป็นพ่อเด็ก ?”.... “เขาหนีไปมีเมียใหม่ ไม่ยอมส่งเสียเลี้ยงดูบุตร” ...“หนูแต่งงานกับเขาแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูก 1 คน เขาพาลูกหนี และไม่ยอมให้หนูเจอหน้าลูก” เป็นคำถามที่ได้ยินหนาหูอยู่ทุกวันเมื่อหญิงสาวผู้ผู้ถูกทอดทิ้งจากชาย....? ทั่วทุกสารทิศ โทรมาปรึกษา ซึ่งไม่น้อยกว่าวันละ 10 สาย สิ้นเสียงจากปลายสายทนายความก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วก็คิดในใจว่า "อีกแล้วหรอ" จากนั้นจึงได้เริ่มร่ายบทสนทนาพร้อมให้คำปรึกษาไปว่า...

          ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าในสังคมปัจจุบัน ชายกับหญิงมีการคบหากันเป็นแฟนเปลี่ยนแฟนใหม่กันเป็นว่าเล่น เริ่มตั้งแต่ชั้นประถมก็เดินควงคู่จู๋จี๋กันอย่างไม่อายสายตาของสังคม จนทำให้ผู้หญิงบางคนพลาดท่าตั้งท้องขึ้นมา จะทำไงกันละทีนี้ เรียนก็ยังไม่จบ งานการก็ยังไม่ได้ทำ กลัวพ่อแม่จะรู้ก็ไปทำแท้งบ้างเอย บางคนมีความรับผิดชอบหน่อยก็ยอมออกจากโรงเรียนเพื่อเลี้ยงลูกบ้างเอย ส่วนผู้ชายก็ตามนิสัยสันดาน(บางคน) พอรู้ว่าหญิงท้องก็เริ่มแสดงนิสัยอันน่ารังเกียจออกมา เริ่มทำตัวตีห่าง ไม่ดูแล ไม่เอาใจใส่ เหมือนสมัยมันบรรจงจ้วงแทงฟาดฟันกันบนเตียง สุดท้ายก็เลิกรากัน ฝ่ายหญิงก็เป็นฝ่ายรับเวรรับกรรมเลี้ยงลูกไปเพราะไอ้ผู้ชายมันหนีไปหาเมียใหม่ ทีนี้จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรที่จะลากคอผู้ชายเฮงซวยให้มันมารับผิดชอบสิ่งที่มันไข่ไว้บ้าง

        ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า หญิงกับชายมีลูกกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส จะถือว่าเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิงฝ่ายเดียว แต่เด็กจะเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของชายได้ต่อเมื่อชายจดทะเบียนรับรองบุตร หรือ ศาลพิพากษาให้เด็กเป็นบุตรเท่านั้น และเมื่อมีการจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรแล้วย่อมสามารถเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรจากฝ่ายชายได้ หรือหากฝ่ายชายไม่ยอมจดทะเบียนรับรองบุตร ฝ่ายหญิงสามารถยื่นฟ้องต่อศาลให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ฝ่ายชายเป็นบิดาของบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายและเรียกค่าเรียงดูบุตรไปพร้อมกันได้  มาดูข้อกฎหมายกันเลยครับ

          ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

          มาตรา 1546 เด็กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชาย ให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น

          มาตรา 1547 เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกัน จะเป็นบุตรชอบ ด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลัง หรือบิดาได้จด ทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร

          มาตรา 1555 ในคดีฟ้องขอให้รับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้

          (1) เมื่อมีการข่มขืนกระทำชำเรา ฉุดคร่า หรือหน่วงเหนี่ยวกักขังหญิงมารดา โดยมิชอบด้วยกฎหมายในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ได้

          (2) เมื่อมีการลักพาหญิงมารดาไปในทางชู้สาวหรือมีการล่อลวงร่วมประเวณีกับหญิงมารดา ในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ได้

          (3) เมื่อมีเอกสารของบิดาแสดงว่าเด็กนั้นเป็นบุตรของตน

          (4) เมื่อปรากฏในทะเบียนคนเกิดว่าเด็กเป็นบุตรโดยมีหลักฐานว่าบิดาเป็นผู้แจ้งการเกิด หรือรู้เห็นยินยอมในการแจ้งนั้น

          (5) เมื่อบิดามารดาได้อยู่กินด้วยกันอย่างเปิดเผยในระยะเวลาซึ่งหญิงมารดาอาจตั้งครรภ์ได้

          (6) เมื่อได้มีการร่วมประเวณีกับหญิงมารดาในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ได้ และมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเด็กนั้นมิได้เป็นบุตรของชายอื่น

          (7) เมื่อมีพฤติการณ์ที่รู้กันทั่วไปตลอดมาว่าเป็นบุตร

        มาตรา 1564 บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควร แก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตร ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่เฉพาะ ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองมิได้

ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer