หากลูกหนี้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาล และศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมโดยมิได้มีผลผูกพันกับผู้ค้ำประกัน จึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญายอมที่ลูกหนี้ได้ทำขึ้นและมีคำพิพากษาตามยอม
เมื่อพูดถึงคำว่า “ค้ำประกัน” หลายๆ ท่านถึงกับพูดกันเลยว่า “ขอกันดีกว่า ดีกว่าให้ค้ำประกัน” ซึ่งการค้ำประกัน
หมายถึง การประกันการชำระหนี้ด้วยบุคคลอันเป็นสัญญาประเภทหนึ่ง
ซึ่งบุคคลอื่นนอกเหนือจากเจ้าหนี้และลูกหนี้ยอมตกลงกับเจ้าหนี้ว่าหากลูกหนี้
ไม่ชำระหนี้ ตน(ผู้ค้ำประกัน) จะยอมชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ และการค้ำประกันถึงกับนำสำนวนสุภาษิตที่ว่า “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ” ความหมายของสุภาษิตนี้ หมายถึง ต้องมาเป็นผู้รับผิดชอบทั้งๆที่ไม่ได้รับผลประโยชน์อันใดเลย
หรือคนที่เข้าไปช่วยเหลือเหตุการณ์บางอย่าง โดยไม่ได้รับผลประโยชน์
แต่ต้องมารับเคราะห์ในเหตุการณ์นั้นๆ
แต่ในบางครั้งบางโอกาส
เมื่อเกิดสถานการณ์ที่คนที่ตนรู้จัก คนในครอบครัว
หรือแม้กระทั่งเพื่อนฝูงได้มีขอสินเชื่อไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม สถาบันการเงินก็มักจะให้ผู้ขอสินเชื่อต้องมีผู้ค้ำประกันเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือว่าสถาบันการเงินจะได้รับการชำระหนี้
จึงเกิดการขอร้อง ขอความช่วยเหลือ หรือขอความเห็นใจให้ช่วยค้ำประกันหนี้ขึ้น
จึงเป็นการยากที่จะปฏิเสธบุคคลนั้นๆ ที่มาขอให้ช่วยได้ แต่ปัญหาจะไม่เกิดหากชำระหนี้
แต่ที่เกิดขึ้นคือหนี้ไม่ชำระ จึงทำให้ในปัจจุบันมีการฟ้องร้องลูกหนี้
และเมื่อหนี้ดังกล่าวมีผู้ค้ำประกัน
จึงจำเป็นที่เจ้าหนี้จะต้องฟ้องผู้ค้ำประกันด้วยเช่นกัน
และสร้างความเดือดร้อนให้เหล่าคนดีที่มีจิตใจที่ดีงามที่ให้ความช่วยเหลือกลับต้องมาเป็น
“ จำเลย ”
แต่ทราบหรือไม่ว่า
หากเจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้ต่อศาลแล้วทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและศาลได้มีคำพิพากษาตามยอม
หากลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาดังกล่าว
เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิมาฟ้องผู้ค้ำประกันเพื่อให้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ได้
โดยเรื่องนี้มีคำพิพากษาที่น่าสนใจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
12711/2558 หนี้ตามสัญญาค้ำประกันเป็นหนี้อุปกรณ์
ผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันก็ต่อเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้เงินกู้ซึ่งเป็นหนี้ประธาน
หรือยังมีหนี้ประธานที่ผู้ให้กู้ยังไม่ได้รับชำระหนี้ การที่โจทก์ฟ้อง บ.
ให้รับผิดชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืม
แล้วทั้งสองฝ่ายทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันจนศาลพิพากษาตามยอมแล้ว
ย่อมทำให้หนี้ประธานคือหนี้กู้ยืมระงับ
เกิดเป็นหนี้ใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อหนี้กู้ยืมระงับ
จึงไม่มีหนี้ที่จำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดอีก จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันต่อโจทก์
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536
แอดไลน์ @closelawyercmi หรือ คลิก https://lin.ee/Zu2JmNU
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments