คดีเช็ค!! หากผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์หรือฟ้องคดีภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีเป็นอันขาดอายุความ
อายุเป็นเพียงตัวเลข (คำปลอบใจของผู้สูงวัยทั้งหลาย) แต่ “อายุความ” อาจทำให้คุณได้สิทธิหรือเสียสิทธิตามกฎหมายได้
คดีเช็คนั้น
ถือเป็นคดีที่เป็นความผิดอันยอมความได้ ซึ่งอายุความฟ้องคดีเช็คในทางอาญานั้น
กฎหมายได้กำหนดว่า
“ในกรณีความผิดอันยอมความ ได้ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความ
ผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96)”
“ในคดีอาญา ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิด มายังศาลภายในกำหนดห้าปี นับแต่วันกระทำความผิด สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งเดือนถึง
หนึ่งปี (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(4))”
ดังนั้น ในการร้องทุกข์คดีเช็ค ผู้เสียหายต้องร้องทุกข์ หรือ
ฟ้องคดี(กรณีให้ทนายความฟ้องคดีแทน) ภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด
หรือหากมีการร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือนแล้ว ต้องฟ้องคดีต่อศาลภายในกำหนด 5 ปี
นับแต่วันกระทำความผิด มิฉะนั้น ต้องถือว่าคดีขาดอายุความ
ไม่สามารถเอาผิดทางอาญากับผู้ที่ออกเช็คนั้นได้ เรามาดูตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกากันครับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2515
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ
หลังจากวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค 5 เดือนเศษ
โดยโจทก์มิได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน
นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด ฟ้องโจทก์ย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2515
ผู้เสียหายนำเช็คของจำเลยไปเข้าบัญชี
แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยแจ้งว่าให้นำเช็คมาเบิกเงินใหม่ต่อมาได้นำไปเข้าบัญชีอีกครั้ง
ธนาคารก็ปฏิเสธการจ่ายเงินอีกโดยอ้างว่าเกินข้อตกลง ดังนี้
ถือว่าผู้เสียหายได้รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้วตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก
เมื่อผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันนั้นคดีที่ฟ้องจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้ย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2531
แม้โจทก์จะร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับจำเลยภายในกำหนดอายุความสามเดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวจำเลยผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 96 และฟ้องจำเลยภายในกำหนดอายุความ 5 ปี นับแต่วันกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(4) แล้วก็ตามเมื่อในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
ไม่ได้ตัวจำเลยมาศาลภายในกำหนดเวลาดังกล่าว
คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 วรรคแรก
เป็นไงกันบ้างละครับ
พออ่านมาถึงตรงนี้ รู้กันแล้วใช่มั๊ยครับว่า หากเราเป็นผู้ทรงเช็ค
เมื่อเช็คถึงกำหนดชำระเงินแล้วเราได้นำเช็คไปเรียกเก็บเงินธนาคาร
แต่ธนาคารปฎิเสธการจ่ายเงิน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้ว
และธนาคารได้คืนเช็คให้กับเรา ในทางกฎหมายถือว่าเราได้รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดในวันดังกล่าวแล้ว
เราต้องร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน หรือ หาทนายความยื่นฟ้องคดีให้ ภายในกำหนด 3
เดือนนับแต่วันที่ธนาคารคืนเช็คแก่เรา
ตัวอย่างเช่น นายเอเป็นผู้ทรงเช็คของธนาคารกรุงไทยเป
สาขาบางนา (ธนาคารเจ้าของเช็ค) จำนวน 500,000 บาท ลงวันที่
19 เมษายน 2560 ซึ่งนายบี เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คให้แก่นายเอ
โดยเช็คถึงกำหนดชำระวันที่ 19 พฤษภาคม 2560
ในวันดังกล่าวนายเอได้นำเช็คไปเรียกเก็บเงินที่ธนาคารกรุงไทยเป สาขาบางพลี
ต่อมาธนาคารกรุงไทยเป สาขาบางนา ได้ปฎิเสธการจ่ายเงินตามเช็คในวันที่ 20 พฤษภาคม
2560 และได้แจ้งให้นายเอมารับเช็คคืนในวันที่ธนาคารปฎิเสธการจ่ายเงินดังกล่าว
ดังนั้น จึงต้องถือว่ามีการกระทำความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดคือนายบี ในวันที่
20 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ธนาคารปฎิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค
นายเอจะต้องไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนหรือมอบหมายให้ทนายความฟ้องคดีกับนายบี
ภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2560 ครบกำหนดอายุความวันที่ 30
สิงหาคม 2560 เป็นต้น (ป.อ.มาตรา 96)
อย่างไรก็ตาม
แม้จะมีการร้องทุกภายในกำหนด 3 เดือนแล้วก็ตาม หากนายบี หนี
ตำรวจจะต้องจับตัวนายบีมาฟ้องคดีภายในกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2560
จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วยังไม่ได้ตัวนายบีมาฟ้องคดี
ถือว่าคดีเป็นอันขาดอายุความด้วยเช่นกัน (ป.อ.มาตรา 95 วรรคแรก ประกอบ (4))
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments