ตำรวจพบเห็นการกระทำความผิด แต่กลับไม่ทำการจับกุมและเรียกรับเงิน หรือหากตำรวจแกล้งกล่าวหาแล้วเรียกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต!!
ตำรวจพบเห็นการกระทำความผิด
แต่กลับไม่ทำการจับกุมและเรียกรับเงิน หรือหากตำรวจแกล้งกล่าวหาแล้วเรียกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่
5 - 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต!!
เมื่อมีกรณี ที่ท่านหรือคนใกล้ตัว
อาจจะกระทำความผิด ละเมิดกฎหมาย ทั้งโดยจงใจหรือเพราะประมาท
ถ้าหากเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีหน้าที่ ประพฤติตนไม่ถูกต้อง เช่น
กรณีที่เจ้าหน้าที่เรียกรับสินบน แลกกับการไม่จับกุม
หรือสอบสวนดำเนินคดีให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเช่นเดียวกัน
ถ้าหากท่านไม่ได้ทำความผิดใดๆ แต่ด้วยความบังเอิญ หรือความไม่ตั้งใจ
ทำให้ท่านถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุม หรือแจ้งข้อกล่าวหา
โดยที่ท่านไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด แล้วเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี
ย่อมถือได้ว่า เจ้าพนักงานตำรวจผู้นั้นกระทำผิดตามกฎหมาย
คำถาม : ในกรณีที่ท่าน อาจกระทำความผิดตามกฎหมาย ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือ ประมาท
ถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแล้ว เรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี
หรือในกรณีที่ท่านไม่ได้กระทำความผิด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
แล้วแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี
ตำรวจจะมีความผิดอย่างไรหรือไม่
คำตอบ : เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้มีหน้าที่สืบสวน จับกุมผู้กระความผิดทางอาญา ถ้าหากไม่ทำการจับกุม
แต่เรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี
หรือจับกุมแล้วแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อเรียกรับเงิน
แลกกับการไม่ดำเนินคดีอาญาดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความผิด
คำพิพากษาฎีกาที่ 1524/2551
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดอาญา
ได้พบเห็น ส. กับพวกเล่นการพนันชนไก่อันเป็นความผิดอาญา
จำเลยมีหน้าที่ต้องทำการจับกุมผู้กระทำความผิด
แต่กลับไม่ทำการจับกุมและเรียกรับเงินจำนวน 1,500
บาท จาก ส. เพื่อจะไม่จับกุมตามหน้าที่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 149
คำพิพากษาฎีกาที่ 3309/2541
คืนเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4
ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้จำเลยที่ 1
ซึ่งมิใช่เจ้าพนักงานตำรวจให้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ
เพื่อเป็นเครื่องมือให้ไปเรียกเก็บเงินจากบรรดาคนขับรถยนต์บรรทุกที่แล่นผ่านไปมาไม่เลือกว่าคนขับรถนั้นจะได้กระทำความผิดต่อกฎหมายหรือไม่
โดยจำเลยที่ 1 เข้าไปพูดกับคนขับรถว่า "ตามธรรมเนียม"
คนขับรถนั้นแม้มิได้กระทำความผิดก็ต้องจำใจจ่ายเงินให้จำเลยที่ 1
ด้วยความเกรงกลัวต่ออำนาจในการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ การกระทำของจำเลยที่ 2 ถึงที่
4 ดังกล่าวเป็นการร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจเพื่อให้คนขับรถยนต์บรรทุกมอบเงินให้แก่จำเลยที่
1 ซึ่งเป็นพวกของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148
แล้ว
และหากรถยนต์บรรทุกคันใดมีการกระทำที่เป็นความผิดต่อกฎหมาย
ถ้าจำเลยที่ 1 เรียกเอาเงินจากคนขับรถได้แล้ว จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ก็จะไม่ทำการจับกุม
การกระทำของจำเลยที่ 2 ถึง ที่ 4
ดังกล่าวย่อมเป็นการร่วมกันเรียกและรับเงินจากคนขับรถยนต์บรรทุกสำหรับตนเองโดยมิชอบ
เพื่อไม่กระทำการในตำแหน่งคือไม่จับกุมตามหน้าที่
อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149
แต่คืนเกิดเหตุมีการเรียกเก็บเงินหลายครั้งหลายหนจากบรรดาคนขับรถหลาย
ๆ คน ดังนี้
เมื่อโจทก์รวมการกระทำเหล่านี้ไว้ในฟ้องข้อเดียวกันโดยถือเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คือผิดทั้งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 149
จึงต้องบังคับให้เป็นไปตามคำขอของโจทก์ ซึ่งแต่ละบทมาตรามีโทษเท่ากัน และเมื่อผิดตามบทเฉพาะเช่นนี้แล้วก็ไม่จำต้องปรับบทความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 157 อันเป็นบททั่วไปอีก
คำพิพากษาฎีกาที่ 5973/2537
จำเลยที่ 1
เป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนความผิดอาญา เมื่อได้พบและกล่าวหาว่าโจทก์ร่วมและนายสุเธียรมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
อันมิใช่การแกล้งกล่าวหา การที่จำเลยที่ 1
ไม่จับกุมแต่กลับขู่เข็ญเรียกเงินแล้วละเว้นไม่จับกุมโจทก์ร่วมและนายสุเธียร
จึงไม่ใช่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 แต่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 149 เนื่องจากโจทก์มิได้ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 149 อันเป็นบทเฉพาะมาด้วย ก็ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
อันเป็นบททั่วไปและเป็นบทที่โจทก์ฟ้องมาได้ สำหรับจำเลยที่ 2
มิใช่เจ้าพนักงานแต่ร่วมกระทำผิดฐานนี้ด้วย จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา
157 ประกอบมาตรา 86
มาตรา 148 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน
ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ
ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต
และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ
หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต
และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments