โมฆียกรรม หมายถึงอะไร

โมฆียกรรม หมายถึงอะไร

หมายถึง นิติกรรมซึ่งอาจบอกล้าง เพิกถอน หรือให้สัตยาบันได้, ถ้าบอกล้างก็เป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก ถ้าให้สัตยาบันก็มีผลสมบูรณ์มาแต่เริ่มแรกมฆะแต่แรกเริมได้

การบอกล้างโมฆียะกรรม, ผู้มีสิทธิบอกล้างโมฆียะกรรม, กำหนดเวลาบอกล้างโมฆียะกรรม
มาตรา 175

โมฆียะกรรมนั้น บุคคลต่อไปนี้จะบอกล้างเสียก็ได้

(1) ผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้เยาว์ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแต่ผู้เยาว์จะบอกล้างก่อนที่ตนบรรลุนิติภาวะก็ได้ ถ้าได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม

(2) บุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เมื่อบุคคลนั้นพ้นจากการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถแล้ว หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์แล้วแต่กรณี แต่คนเสมือนไร้ความสามารถจะบอกล้างก่อนที่ตนจะพ้นจากการเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถก็ได้ถ้าได้รับความยินยอมของผู้พิทักษ์

(3) บุคคลผู้แสดงเจตนาเพราะสำคัญผิด หรือถูกกลฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่

(4) บุคคลวิกลจริตผู้กระทำนิติกรรมอันเป็นโมฆียะตาม มาตรา 30 ในขณะที่จริตของบุคคลนั้นไม่วิกลแล้ว

ถ้าบุคคลผู้ทำนิติกรรมอันเป็นโมฆียะถึงแก่ความตายก่อนมีการบอกล้างโมฆียะกรรมทายาทของบุคคลดังกล่าวอาจบอกล้างโมฆียะกรรมนั้นได้

อธิบาย
บอกล้าง คือ การแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญา ทำลายนิติกรรมให้กลายเป็นโมฆะ
โมฆียะกรรมเป็นนิติกรรมที่สมบูรณ์ใช้บังคับกันได้ตามกฎหมายตั้งแต่ทำนิติกรรมนั้นจนกว่าจะถูกบอกล้าง ซึ่งถ้าหากถูกบอกล้างแล้วก็จะทำให้นิติกรรมนั้นเป็นโมฆะย้อนไปถึงเวลาเริ่มแรกที่ได้มีการทำนิติกรรมนั้นขึ้น

นิติกรรมที่เป็นโมฆียะ อาจเกิดจากความบกพร่องในเรื่องความสามารถของผู้ทำนิติกรรมเช่น ผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ บุคคลวิกลจริต เป็นต้น หรือความบกพร่องเรื่องการแสดงเจตนา เช่น สำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคลหรือทรัพย์ซึ่งเป็นสาระสำคัญ, ถูกกลฉ้อฉลหรือถูกข่มขู่ เป็นต้น

ผู้มีสิทธิบอกล้างโมฆียะกรรม ได้แก่
1.กรณีโมฆียะกรรมได้กระทำขึ้นโดยผู้เยาว์ ได้แก่
1.ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ หรือ
2.ผู้เยาว์ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ผู้เยาว์จะบอกล้างก่อนที่ตนบรรลุนิติภาวะก็ได้ถ้าได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
2.กรณีโมฆียะกรรมได้กระทำขึ้นโดยคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ได้แก่
1.ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์แล้วแต่กรณี
2.คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เมื่อบุคคลนั้นพ้นจากการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถแล้ว แต่คนเสมือนไร้ความสามารถจะบอกล้างก่อนที่ตนจะพ้นจากการเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถก็ได้ถ้าได้รับความยินยอมของผู้พิทักษ์
3.กรณีโมฆียะกรรมได้กระทำขึ้นโดยบุคคลผู้แสดงเจตนาเพราะสำคัญผิด หรือถูกกลฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่ ได้แก่
1. ตัวผู้แสดงเจตนาเพราะสำคัญผิด หรือถูกกลฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่นั้นเอง เมื่อได้เข้าใจถูกต้องแล้ว หรือพ้นจากการข่มขู่แล้ว
4.กรณีโมฆียะกรรมได้กระทำขึ้นโดยบุคคลวิกลจริต ได้แก่
1.ตัวบุคคลวิกลจริตนั้นเอง เมื่อในขณะบอกล้างจริตของบุคคลนั้นไม่วิกลแล้ว
5ถ้าบุคคลผู้ทำนิติกรรมอันเป็นโมฆียะถึงแก่ความตายก่อนมีการบอกล้างโมฆียะกรรมทายาทของบุคคลดังกล่าวอาจบอกล้างโมฆียะกรรมนั้นได้

ฎีกา 119/2519
การบอกล้างการแสดงเจตนาที่กระทำไปเพราะเหตุกลฉ้อฉลและเป็นโมฆียะนั้น กฎหมายให้สิทธิแต่เฉพาะบุคคลที่ระบุไว้ในมาตรา 175 เท่านั้นที่มีสิทธิบอกล้าง
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่ากับโจทก์เพราะถูกกลฉ้อฉลถึงขนาด จำเลยที่ 1 เท่านั้นที่มีสิทธิบอกล้างสัญญาเช่า จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิบอกล้าง เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ได้บอกล้าง จำเลยที่ 2ก็ไม่มีสิทธิยกข้อต่อสู้ว่า “จำเลยที่ 1 ถูกโจทก์ใช้กลฉ้อฉล” ขึ้นมาต่อสู้ เพราะจำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ค้ำประกันไม่ใช่ผู้มีสิทธิบอกล้างตามที่มาตรา 175 บัญญัติไว้
ฎีกา 922/2542 สัญญาประกันชีวิตเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยซึ่งการใช้เงินย่อมอาศัยการทรงชีพหรือมรณะของตน ต้องเปิดเผยข้อความจริงให้ผู้รับประกันภัยทราบ ท. ผู้เอาประกันชีวิตป่วยเป็นวัณโรคปอด ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงและได้รับการรักษาเกี่ยวกับโรคดังกล่าวเป็นเวลานาน แต่มิได้แจ้งข้อความจริงให้จำเลยทราบเมื่อขอเอาประกันชีวิต ซึ่งหากจำเลยทราบก็อาจเรียกเบี้ยประกันสูงขึ้นหรือไม่รับประกันชีวิต สัญญาประกันชีวิตจึงเป็นโมฆียะ ผู้รับประกันภัยย่อมมีสิทธิบอกล้างนิติกรรมได้โดยมิต้องคำนึงว่าผู้เอาประกันภัยจะถึงแก่ความตายหรือไม่ หรือตายด้วยเหตุใด เมื่อผู้เอาประกันชีวิตถึงแก่ความตายแล้วจำเลยจะบอกล้างสัญญาประกันชีวิตอันเป็นโมฆียะต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาได้ เมื่อจำเลยบอกล้างสัญญาอันเป็นโมฆียะแล้วจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์

กำหนดเวลาบอกล้างโมฆียะกรรม
1.กำหนดเวลาเริ่มต้นใช้สิทธิบอกล้างโมฆียะกรรม
ป.พ.พ.ไม่ได้กำหนดเวลาเริ่มต้นใช้สิทธิไว้โดยตรง แต่เมื่อดูจากมาตรา 175 คือ
โดยทั้งไปผู้มีสิทธิบอกล้างจะใช้สิทธิบอกล้างเมื่อใดก็ได้คือเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อตนพ้นจากสภาพหรือสภาวะอันเป็นเหตุให้นิติกรรมตกเป็นโมฆียะแล้ว เช่น เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว, เมื่อพ้นจากการเป็นคนไร้ความสามารถแล้ว
2.กำหนดเวลาสิ้นสุดในการใช้สิทธิบอกล้างโมฆียะกรรม (มาตรา 181) บอกล้างไม่ได้เมื่อ
1) พ้นเวลา 1 ปีนับแต่เวลาที่อาจให้สัตยาบันได้ หรือ
2) พ้นเวลา 10 ปีนับแต่ได้ทำนิติกรรมอันเป็นโมฆียะ

ผลการบอกล้างโมฆียะกรรม
มาตรา 176
โมฆียะกรรมเมื่อบอกล้างแล้ว ให้ถือว่าเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก และให้คู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิม ถ้าเป็นการพ้นวิสัยจะให้กลับคืนเช่นนั้นได้ ก็ให้ได้รับค่าเสียหายชดใช้ให้แทน
ถ้าบุคคลใดได้รู้หรือควรจะได้รู้ว่าการใดเป็นโมฆียะ เมื่อบอกล้างแล้วให้ถือว่าบุคคลนั้นได้รู้ว่าการนั้นเป็นโมฆะนับแต่วันที่ได้รู้หรือควรจะได้รู้ว่าเป็นโมฆียะ
ห้ามมิให้ใช้สิทธิเรียกร้องอันเกิดแต่การกลับคืนสู่ฐานะเดิมตามวรรคหนึ่งเมื่อพ้นหนึ่งปีนับแต่วันบอกล้างโมฆียะกรรม
อธิบาย
ผลของการบอกล้างนิติกรรมอันเป็นโมฆียะกรรม คือ ให้ถือว่านิติกรรมนั้นเป็นโมฆะมาตั้งแต่เริ่มแรก และให้คู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิม ถ้าเป็นการพ้นวิสัยจะให้กลับคืนเช่นนั้นได้ ก็ให้ได้รับค่าเสียหายชดใช้ให้แทน
การให้สัตยาบัน, ผู้มีสิทธิให้สัตยาบัน, กำหนดเวลาให้สัตยาบัน, ผลของการให้สัตยาบัน
มาตรา 177
ถ้าบุคคลผู้มีสิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมตาม มาตรา 175 ผู้หนึ่งผู้ใดได้ให้สัตยาบันแก่โมฆียะกรรม ให้ถือว่าการนั้นเป็นอันสมบูรณ์มาแต่เริ่มแรก แต่ทั้งนี้ย่อมไม่กระทบกระเทือนถึง
สิทธิของบุคคลภายนอก
อธิบาย
การให้สัตยาบัน คือ การให้การรับรองนิติกรรมหรือสัญญาที่ทำซึ่งเป็นโมฆียะให้มีผลสมบูรณ์และหมดสิทธิที่จะบอกล้างนิติกรรมนั้นได้อีก
ผลของการให้สัตยาบัน คือ ทำให้นิติกรรมนั้นเป็นอันสมบูรณ์มันแต่เริ่มแรก และไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของบุคคลภายนอก
ผู้มีสิทธิให้สัตยาบันแก่โมฆียะกรรม ก็คือบุคคลผู้มีสิทธิบอกล้างโมฆียะกรรมตามมาตรา 175 นั่นเอง
กำหนดเวลาให้สัตยาบัน แยกเป็น
1.หลักทั่วไป คือ ผู้มีสิทธิให้สัตยาบันให้สัตยาบันเมื่อใดก็ได้
2.ข้อยกเว้น กรณีผู้ทำนิติกรรมเป็นเหตุแห่งโมฆียะกรรมนั้น การให้สัตยาบันจะทำได้ก็ต่อเมื่อได้กระทำภายหลังเวลาที่มูลเหตุให้โมฆียะกรรมนั้นหมดสิ้นไปแล้ว คือ
2.1 กรณีผู้เยาว์ ให้สัตยาบันได้เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว
2.2 กรณีคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ให้สัตยาบันได้เมื่อพ้นจากการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถแล้วและได้รู้เห็นโมฆียะกรรมนั้นแล้วด้วย
2.3 กรณีคนวิกลจริต ให้สัตยาบันได้เมื่อจริตของบุคคลนั้นไม่วิกลแล้วและได้รู้เห็นเรื่องโมฆียะกรรมนั้นแล้วด้วย
2.4 กรณีแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดหรือถูกกลฉ้อฉลหรือถูกข่มขู่ ให้สัตยาบันได้เมื่อได้รู้ความจริงหรือพ้นจากการถูกข่มขู่แล้วแต่กรณี
3.กำหนดเวลาสิ้นสุดในการให้สัตยาบัน ป.พ.พ.ไม่ได้กำหนดไว้


ปรึกษากฎหมายโทร
ได้ที่ 080-9193691 , 02-0749954
หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536 แอดไลน์ @cly.cmi
หรือ คลิก https://lin.ee/w7Ikc1z
สาขาขอนแก่น โทร 095-9567735 แอดไลน์ @cly.kkn
หรือ คลิก https://lin.ee/vbQlVcap
www.closelawyer.co.th
ทนายใกล้ตัว

5d7Cr3mZUt

แบบฟอร์มปรึกษากฎหมาย/คดีความ

กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทีมงานจะตอบคำถามท่านภายใน 3 วัน

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 653,363