บุคคลที่ได้รับสิทธิอาศัย รื้อบ้านไปแล้วปลูกบ้านขึ้นมาใหม่ จะเกิดสิทธิอาศัยขึ้นใหม่หรือไม่ และบ้านที่ปลูกขึ้นใหม่จะตกเป็นส่วนควบของที่ดินหรือไม่
“สิทธิอาศัย”
หมายถึง สิทธิที่จะอยู่ในโรงเรียนของบุคคลอื่นโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า
ลักษณะของสิทธิอาศัย จะต้องเป็นการอยู่ในโรงเรือนของผู้อื่นเพื่ออยู่อาศัย
ไม่ใช้วัตถุประสงค์อื่น เช่น เพื่อทำการค้า การทำธุรกิจ
และต้องเป็นการอยู่อาศัยอยู่ในโรงเรือนเท่านั้น ไม่ใช้อาศัยอยู่ในที่ดิน
สิทธิอาศัยจะได้มาโดยทางนิติกรรมเท่านั้น
กล่าวคือ โดยการตกลงระหว่างเจ้าของโรงเรือนกับผู้ซึ่งได้จะได้สิทธิอาศัย
และจะต้องไม่มีการให้ค่าตอบแทนแก่เจ้าของโรงเรือน ถ้ามีการให้ค่าตอบแทนจะมีลักษณะเป็นการเช่าทรัพย์ไม่ใช่สิทธิอาศัย
ความระงับของสิทธิอาศัย
1. เมื่อนิติกรรมก่อสิทธิอาศัยไม่ได้กำหนดระยะเวลาการให้สิทธิอาศัยเอาไว้
ผู้ให้อาศัยมีสิทธิบอกเลิกสิทธิอาศัยเมือใดก็ได้โดยต้องบอกเลิกล่วงหน้าตามสมควร
2. ถ้านิติกรรมก่อตั้งสิทธิอาศัยกำหนดระยะเวลาการให้สิทธิอาศัยเอาไว้
เมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวสิทธิอาศัยย่อมระงับลง
3. เมื่อผู้ทรงสิทธิอาศัยถึงแก่ความตาย
4. เมื่อโรงเรือนที่ให้อาศัยสลายไปทั้งหมด
คำถาม : บุคคลที่ได้รับสิทธิอาศัย รื้อบ้านไปแล้วปลูกบ้านขึ้นมาใหม่ จะเกิดสิทธิอาศัยขึ้นใหม่หรือไม่
และบ้านที่ปลูกขึ้นใหม่จะตกเป็นส่วนควบของที่ดินหรือไม่
คำตอบ : เมื่อบ้านเดิม ซึ่งเป็นโรงเรือนได้ถูกรื้อถอนไปแล้ว สิทธิอาศัยย่อมสิ้นลง
จึงไม่มีบ้านซึ่งเป็นโรงเรือนที่มีสิทธิอาศัยตามกฎหมายแล้ว
การที่ปลูกบ้านใหม่ขึ้นแทนภายหลังก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิอาศัยขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด
และการที่ปลูกบ้านใหม่ในที่ดินโดยไม่ได้รับความยินยอม
บ้านใหม่จึงเป็นส่วนควบของที่ดินตกเป็นของเจ้าของที่ดินด้วย
คำพิพากษาฎีกาที่
339/2551
การอยู่อาศัยที่ ป.ได้ให้ไว้แก่ ฮ.
และจำเลยที่ 1 เป็นบุคคลสิทธิ ใช้ยันโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก ป.ได้
เมื่อจำเลยทั้งสองรื้อบ้านซึ่งเป็นโรงเรือนไปแล้ว
สิทธิอาศัยย่อมสิ้นลง
จึงไม่มีโรงเรือนอันจะมีสิทธิอาศัย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1402
และมาตรา 1408
การที่จำเลยทั้งสองปลูกบ้านขึ้นแทนภายหลังจากที่
ป.ถึงแก่ความตายโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ทั้งสอง ก็หาก่อให้เกิดสิทธิอาศัยขึ้นมาใหม่ไม่
และเป็นส่วนควบของที่ดินพิพาทตกเป็นของเจ้าของที่ดินพิพาทตามมาตรา 144
ทั้งเป็นการปลูกโรงเรือนในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่สุจริตตามมาตรา 1311
การที่โจทก์ทั้งสองฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองออกจากที่ดินพิพาทและบ้านพอถือได้ว่าโจทก์ทั้งสองในฐานะผู้จัดการมรดกของ
ป. ประสงค์จะให้บ้านคงอยู่ตามมาตรา 1311 ดังนั้น เมื่อจำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิใด ๆ
ในที่ดินพิพาทและบ้าน โจทก์ทั้งสองในฐานะผู้จัดการมรดกชอบที่จัดการตามที่จำเป็นได้ตามมาตรา
1719 และมาตรา 1736 วรรคสอง จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน
มาตรา 1402 บุคคลใดได้รับสิทธิอาศัยในโรงเรือน
บุคคลนั้นย่อมมีสิทธิอยู่ในโรงเรือนนั้นโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า
มาตรา 1408 เมื่อสิทธิอาศัยสิ้นลง
ผู้อาศัยต้องส่งทรัพย์สินคืนแก่ผู้ให้อาศัย
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments