สามีเอาที่ดินและบ้านซึ่งเป็นสินสมรสไปโอนให้แก่บุคคลอื่นโดยเสน่ห์หาโดยภรรยาไม่ยินยอมฟ้องขอเพิกถอนได้

การที่สามีภรรยาคู่สมรสได้จดทะเบียนสมรส นั้นย่อมหมายถึงว่าทรัพย์สินที่หามาได้ภายหลังจากจดทะเบียนสมรสย่อมมีสิทธิ์ทั้งคู่ร่วมกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะนำทรัพย์สินนั้นออกใช้หรือก่อให้เกิดสิทธิ์ภาระผูกพันในทรัพย์สินนั้นได้ ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสเสียก่อน เว้นแต่ทรัพย์สินนั้นจะมิใช่สินสมรส

อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2518 สามีโจทก์เอาที่ดินและห้องแถวซึ่งเป็นสินสมรสไปจดทะเบียนให้แก่บุตรซึ่งเกิดแต่ภริยาอื่นโดยเสน่หา และโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์นั้นมาเป็นของตนและกองมรดกของสามีได้ส่วนการเพิกถอนการให้ก็ต้องเพิกถอนทั้งหมด จะเพิกถอนเฉพาะส่วนหาได้ไม่
(อ้างฎีกาที่ 872/2508)

การใช้สิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์ของตนเป็นคดีไม่มีอายุความฟ้องร้องแม้จะเป็นเวลาช้านานสักปานใด และทราบเรื่องเมื่อใด เจ้าของยังมีสิทธิติดตามทรัพย์นั้นได้เสมอเว้นแต่กรณีจะต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382,1383 เจ้าของจึงจะหมดสิทธิติดตาม กรณีนี้จะนำเรื่องอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 มาปรับใช้หาได้ไม่

ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer


แบบฟอร์มติดต่อกลับ


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 630,147