หากผู้กระทำความผิดถึงแก่ความตายคดีความอาญาที่อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลย่อมระงับไปเพียงแต่คดีอาญาเท่านั้น ศาลแพ่งชอบที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้
ในกรณีที่หากจำเลยหรือผู้กระทำความผิดถึงแก่ความตายขณะคดีอยู่ระหว่างพิจารณาและได้มีการฟ้องร้องคดีส่วนแพ่งมาด้วยนั้น
เมื่อจำเลยถึงแก่ความตายจึงไม่อาจนำบุคคลใดมาลงโทษได้จึงต้องจำหน่ายคดีออกจากสาระบบเสีย
แต่คดีแพ่งยังคงดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปจนกว่าจะเสร็จ
ตัวอย่าง นาย ก
ได้ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้นาย ข
เจ้าของร้านลูกชิ้นที่ถูกเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บสาหัส และนาย ก
เองก็ได้เข้าโรงพยาบาลได้รับบาดเจ็บ และต่อมาถึงแก่ความตาย มีคำถามว่านาย ข
จะเรียกร้องอะไรได้บ้าง
ดังนั้นเมื่อนาย
ก เสียชีวิตภายหลังจากที่ได้กระทำความผิดอาญา คดีอาญาย่อมระงับไป
แต่ทางแพ่งสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้จากกองมรดกของ นาย ก
คดีแพ่งจึงยังไม่ระงับไปนาย ข ชอบที่จะเรียกร้องเอาได้
อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่
13361/2558 คดีอาญา จำเลยถึงแก่ความตายระหว่างพิจารณาคดีของศาลฎีกา
สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (1) จึงให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ
สำหรับคดีส่วนแพ่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการตาม ป.วิ.พ. มาตรา 42 หากครบกำหนดหนึ่งปีนับแต่จำเลยถึงแก่ความตาย
ไม่มีบุคคลใดร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความแทน
หรือเข้ามาตามหมายเรียกของศาลก็ให้ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ
มาตรา 39
สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ดังต่อไปนี้ (1) โดยความตายของผู้กระทำผิด
มาตรา 42 ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลได้มรณะเสียก่อนศาลพิพากษาคดี
ให้ศาลเลื่อนการนั่งพิจารณาไปจนกว่าทายาทของผู้มรณะหรือผู้จัดการทรัพย์มรดกของผู้มรณะ
หรือบุคคลอื่นใดที่ปกครองทรัพย์มรดกไว้ จะได้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะ
โดยมีคำขอเข้ามาเอง หรือโดยที่ศาลหมายเรียกให้เข้ามา
เนื่องจากคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคำขอฝ่ายเดียว คำขอเช่นว่านี้จะต้องยื่นภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่คู่ความฝ่ายนั้นมรณะ
ถ้าไม่มีคำขอของบุคคลดังกล่าวมาแล้ว
หรือไม่มีคำขอของคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งภายในเวลาที่กำหนดไว้
ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีเรื่องนั้นเสียจากสาระบบความ
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments