เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินที่ยังไม่มีการแบ่งแยกกันเป็นสัดส่วน จะอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งแปลงโดยการครอบครองปรปักษ์ ได้หรือไม่
ครอบครองปรปักษ์ คือ การแย่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง
มีได้ทั้งอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์
สำหรับการครอบครองปรปักษ์อสังหาริมทรัพย์มีหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา
1382 ดังนี้
1.
ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของผู้อื่น
2.
โดยสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ
3.
ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นระยะเวลา 10 ปี (5 ปี สำหรับสังหาริมทรัพย์)
“ผู้อื่น” หมายถึง ทรัพย์สินที่เจ้าของมีกรรมสิทธิ์อยู่
“สงบ” หมายถึง
เป็นการเข้าไปครอบครองโดยไม่มีการใช้กำลังบังคับ ไม่มีใครมาขับไล่ ฟ้องร้อง
“เปิดเผย” หมายถึง
ไม่ได้มีการปิดบังอำพราง หรือซ่อนเร่นการเข้ายึดถือครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่น
การครอบครองอสังหาริมทรัพย์อันจะทำให้ผู้ครอบครองได้กรรมสิทธิ์
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น
นอกจากจะต้องเป็นการครอบครองโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา
10 ปีแล้ว ยังจะต้องเป็นการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของบุคคลอื่นด้วย
หากเป็นการครอบครองทรัพย์สินของตนเองหรือที่ตนเองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมที่ยังไม่มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด
ก็ไม่มีผลที่จะทำให้ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์
คำพิพากษาฎีกาที่ 9394/2557
การครอบครองอสังหาริมทรัพย์อันจะทำให้ผู้ครอบครองได้กรรมสิทธิ์
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้น
นอกจากจะต้องเป็นการครอบครองโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลา
10 ปีแล้ว ยังจะต้องเป็นการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของบุคคลอื่นด้วย
หากเป็นการครอบครองทรัพย์สินของตนเองหรือที่ตนเองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมที่ยังไม่มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด
ก็หามีผลที่จะทำให้ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ไม่
ผู้ร้องยื่นคําร้องขออ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสที่ผู้ร้องและ
บ. ทำมาหาได้ร่วมกันระหว่างเป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย บ.
ขายที่ดินพิพาทไปให้ผู้อื่น
แม้ผู้ร้องยื่นคําร้องขอมุ่งประสงค์จะกล่าวอ้างเรื่องการครอบครองปรปักษ์
แต่ผู้ร้องบรรยายคําร้องขอยืนยันว่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์ที่ผู้ร้องทำมาหาได้ร่วมกันในลักษณะผู้ร้องเป็นเจ้าของอยู่ด้วยกึ่งหนึ่ง
ตราบใดที่ยังไม่มีการแบ่งที่ดินกัน ผู้ร้องและ บ.
จึงต่างเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาทคนละเท่าๆ กัน
ในทุกส่วนของที่ดินพิพาท การที่ผู้ร้องอ้างว่า บ.
นําที่ดินพิพาทไปขายโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ร้อง
ซึ่งมีผลผูกพันเฉพาะที่ดินพิพาทส่วนของ บ. เมื่อ บ. ขายที่ดินพิพาทไป
ผู้ซื้อได้ขายที่ดินพิพาทให้แก่ผู้คัดค้านที่ 2 และผู้คัดค้านที่ 2
ยกที่ดินพิพาทให้แก่ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ดินพิพาทจึงเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์รวมของผู้ร้องและผู้คัดค้านที่
1 ในทุกส่วนของที่ดินพิพาท ศาลจึงไม่อาจมีคำสั่งให้ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท
โดยการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของผู้ร้องเอง
มาตรา 1382 บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ
ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี
ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้
ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments