ปรึกษาเรื่องสัญญาเช่าหอพัก

โดย: สิริภัทราภรณ์ [IP: 223.24.155.xxx]
เมื่อ: 2019-04-02 20:34:38
เมื่อเดือน ธันวาคม 61 ดิฉันได้มองหาที่พักใหม่เพื่อให้เดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น ดูมาหลายที่จนมาเจออพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์เปิดใหม่ ดิฉันสนใจจึงได้นัดนิติเข้าชมห้องพักและพูดคุยเรื่องรายละเอียดค่าเช่าห้อง, ค่าไฟ, ค่าน้ำ, ค่าใช้จ่ายอื่นๆและสัญญาการเช่าห้อง สรุปได้ดังนี้

ห้องมีทั้งหมด 3 แบบ ราคา 6,500, 7,000 (ห้องมุม), 7,500 (แยกห้องนอน)

ค่าน้ำ คิดค่าบริการตามการประปา

ค่าไฟ คิดค่าบริการตามการไฟฟ้า

ค่าที่จอดรถ 500 บาท/เดือน

ระยะเวลาในการเช่า 1 ปี

ดิฉันพอใจในเงื่อนไข จึงตกลงวางเงินมัดจำเป็นจำนวน 2,000 บาท เพื่อจองห้องราคา 7,000 (ห้องมุม) พร้อมกับได้รับส่วนลด 1,000 บาทสำหรับเดือนแรกที่เข้าพัก(ส่วนลดได้จากการแคปหน้าจอที่พักที่เจอตามเว็บไซต์โฆษณาแล้วมายื่นตอนมัดจำ) และแจ้งความจำนงจะเข้าอยู่ต้นเดือนมีนาคม 62 หลังจากนั้นดิฉันจึงได้โทรไปแจ้งทางที่พักเก่าว่าจะย้ายออกสิ้น กุมภาพันธ์ 62

วันที่ 2 มีนาคม 62 คือวันที่ดิฉันย้ายของเข้าที่พักใหม่พร้อมทำสัญญา ซึ่งนิติก็ดำเนินการทำสัญญา ดิฉันได้อ่านสัญญาทุกหน้า จนมาสะดุดเนื้อหาข้อที่ 4. ซึ่งระบุว่า “ผู้ให้เช่าคิดค่าไฟฟ้าตามจำนวนที่ผู้เช่าใช้ไปจริงในอัตราที่ผู้ให้บริการไฟฟ้ากำหนด และค่าน้ำประปาตามจำนวนที่ผู้เช่าใช้ไปจริงในอัตราที่ผู้ให้เช่ากำหนดไว้” ดิฉันอ่านและเข้าใจว่าค่าไฟฟ้ายังคิดค่าบริการตามเรทการไฟฟ้า แต่ค่าน้ำอาจจะคิดเพิ่มจากการประปาเพราะผู้ให้เช่าเป็นผู้กำหนด ซึ่งดิฉันได้ถามย้ำกับทางนิติหลายครั้ง ทุกครั้งก็ได้คำตอบว่า ค่าบริการตามการไฟฟ้าและประปา ดิฉันจึงตกลงเซ็นต์สัญญาเช่า และชำระเงินดังนี้

ค่าประกันห้อง 10,000 บาท

ค่าเช่าห้องล่วงหน้า 7,000 บาท – ค่ามัดจำ 2,000 บาท เหลือจ่าย 5,000 บาท (ส่วนลด 1,000 บาท จะลดในเดือนถัดไป)

ค่าคีย์การ์ดห้องพัก 2 ใบ 500 บาท

ค่าที่จอดรถ 500 บาท

ดิฉันอาศัยอยู่ที่พักใหม่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ นิติคนเก่าก็ได้ออกไป และได้นิติคนใหม่มาทำหน้าที่แทน

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 เมษายน 62 ดิฉันได้รับบิลค่าใช้จ่าย ซึ่งพบว่ายอดสูงมากผิดปกติและเงื่อนไขต่างๆไม่ตรงตามที่แจ้งไว้ก่อนเข้าอยู่ รายละเอียดดังนี้

ค่าเช่าห้องพัก 6,775 บาท (ปกติค่าห้อง 7,000 บาท – ส่วนลด 1,000 บาท ควรจะเหลือ 6,000 บาท)

ค่าน้ำใช้ไป 9 หน่วย คิดเป็นเงิน 162 บาท เฉลี่ยหน่วยละ 18 บาท

ค่าไฟฟ้าใช้ไป 316 หน่วย คิดเป็นเงิน 1,896 บาท เฉลี่ยหน่วยละ 6 บาท (ปกติค่าไฟดิฉันใช้งานไม่เกิน 200 หน่วย อ้างอิงการใช้งานย้อนหลัง 6 เดือนจากการไฟฟ้านครหลวง)

ค่าที่จอดรถ 500 บาท

รวมเป็นเงินทั้งหมด 9,333 บาท

เมื่อดิฉันเห็นบิลดังกล่าวแล้ว จึงได้แจ้งไปทางเจ้าของที่พักโดยตรงเพื่อแจ้งถึงความผิดปกติ ซึ่งห้องอื่นๆก็ได้มีการแจ้งในกรุ๊ปไลน์ของที่พักว่าเดือนนี้ค่าไฟสูงผิดปกติ และมีผู้ร้องเรียนเช่นเดียวกับดิฉันว่าเงื่อนไขก่อนการเข้ามาอยู่แจ้งค่าน้ำ ค่าไฟ ตามการไฟฟ้าและประปา แต่พออยู่จริงกลับบวกเพิ่ม ซึ่งดิฉันได้คำตอบจากทางเจ้าของว่า ค่าไฟ คิดหน่วยละ 6 บาท, ค่าน้ำ คิดหน่วยละ 18 บาท มาตั้งแต่แรกแล้วแต่สัญญาไม่ได้ระบุชัดเจน แต่ตอนนี้ทางที่พักกำลังร่างสัญญาใหม่และจะทยอยให้ผู้เช่าเซ็นต์สัญญาใหม่ ซึ่งทางเจ้าของก็เอาแต่โทษนิติคนเก่าว่ามีปัญหาเรื่องการสื่อสารและคิดคำนวณค่าไฟผิดมาหลายเดือน ทำให้เกิดความวุ่นวายและสูญเสียรายได้ไปหลายหมื่นบาท (แต่ทางดิฉันเป็นเพียงผู้เช่าไม่ได้ทราบเรื่องการบริหารภายในของที่พัก) ส่วนค่าที่พักและหน่วยค่าไฟที่สูงขึ้นจนผิดปกติทางเจ้าของจะดำเนินการตรวจสอบให้เนื่องจากทางที่พักใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการดูแลทั้งหมด

ดิฉันจึงอยากสอบถามว่า

1.ถ้าดิฉันไม่ต้องการเซ็นต์สัญญาฉบับใหม่ ดิฉันสามารถขอยกเลิกสัญญาเก่าและทำเรื่องย้ายออกได้หรือไม่

2.ดิฉันต้องการเงินประกันคืนแบบเต็มจำนวนได้หรือไม่ เนื่องจากเงื่อนไขที่แจ้งก่อนเข้าอยู่ไม่เป็นไปตามที่ตกลง ดิฉันรู้สึกเหมือนถูกหลอกเพราะถ้าดิฉันทราบเงื่อนไขที่ถูกต้อง ดิฉันก็ไม่เลือกย้ายมาที่พักนี้ และดิฉันมัดจำล่วงหน้าถึง 2 เดือน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขควรจะแจ้งให้ดิฉันทราบเพื่อที่ดิฉันจะได้มีเวลาตัดสินใจเลือกว่าจะเช่าที่พักแห่งนี้หรือไม่ จนถึงวันที่เซ็นต์สัญญาทางนิติก็ยังแจ้งดิฉันว่าเงื่อนไขยังเหมือนเดิม

3.ดิฉันสามารถจ่ายค่าไฟของเดือน มีนาคม ตามเรทการไฟฟ้าได้หรือไม่

4.ดิฉันสามารถเอาผิดกับทางที่พักได้หรือไม่ เนื่องจากกฎหมายใหม่ออกมาห้ามมิให้ผู้ประกอบการธุรกิจกำหนดอัตราค่าบริการกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาเกินกว่าอัตราที่ผู้ให้บริการกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาเรียกเก็บจากผู้ประกอบธุรกิจ




ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 630,206