เจ้าของบ้านหรืออาคารใดนำกระถางมาวางริมรั้วเพื่อกันไม่ให้บุคคลอื่นมาจอดรถเป็นการใช้สิทธิ์เกินส่วนของตน “เป็นการทำละเมิด”
บทความนี้เป็นปัญหาที่เรียกได้ว่าคลาสิค ที่ในตรอกซอกซอยแคบๆ
มักจะมีชาวบ้านนำกระถางมาวางริมรั้วเพื่อกันไม่ให้ผู้อื่นมาจอดหน้าบ้านหรือริมรั้วของตนเอง
จนทำให้การเดินทางสันจร เข้าออกหรือใช้สอยทางสาธารณะได้ลำบาก
เป็นเหตุให้คนทะเลาะกันมาก็มาก
เมื่อทางสาธารณะถูกยึดนั้นประชาชนทั่วไปสามารถฟ้องให้ย้ายทรัพย์สินออกไปหรือห้ามมิให้ผู้ใดนำสิ่งของมาวางกีดขวาง
และแน่นอนครับถนนคือทางสาธารณะ
ตัวอย่าง
ป้าสมศรี เป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกับ ป้าอมร
การสันจรไปมาเข้าออกบ้านของป้าสมศรีนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก
เนื่องจากถนนนั้นแคบลงจากการที่ ป้าอมรนำกระถางมาวางไว้รวมรั้วเพื่อไม่ให้บุคคลใดมาจอดรถในบริเวณดังกล่าว
และตนเองได้นำรถมาจอดถัดจากกระถางเป็นประจำ
ก่อความเดือนให้กับป้าสมศรีเป็นอย่างมาก บอกไปยังป้าอมรก็ไม่ได้รับการแก้ไข
จึงนำคดีมาฟ้องฐานละเมิดต่อบุคคลอื่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
ได้เนื่องจากผู้ที่อาศัยอยู่ริมถนนมีสิทธิ์ใช้สอยในพื้นที่ริมทางสาธารณะของตน
แต่ก็ต้องไม่กระทบถึงสิทธิ์ในการใช้ทางสาธารณะของผู้อื่น
ย่อมเป็นการใช้สิทธิ์ของตนเกินส่วนกระทบต่อสิทธิ์ของผู้ใช้ทางสาธารณะอื่น
จึงต้องรื้อถอนกระถางออกไป
อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8293/2559 การใช้ถนนสาธารณะเป็นที่จอดรถ
หากไม่มีข้อห้ามตามกฎหมายเป็นอย่างอื่น เจ้าของที่ดินที่มีอาคารติดกับถนนสาธารณะ
ก็อาจใช้ทางสาธารณะเป็นที่จอดรถของตนได้
แต่จะต้องคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะเป็นหลักก่อน
โดยต้องเว้นทางสำหรับรถยนต์ให้เข้าออกได้เป็นลำดับแรก
แล้วเจ้าของอาคารทั้งสองฝั่งถนนรวมถึงบุคคลทั่วไปจึงจะมีสิทธิใช้ทางส่วนที่เหลือเป็นที่จอดรถบนหลักของความเสมอภาค
โดยไม่จำต้องคำนึงว่าใครจะเป็นผู้มาใช้สิทธิจอดรถก่อนหลังกัน
ประกอบกับกฎกระทรวงที่กำหนดให้ร่นแนวอาคารห่างจากเขตถนนสาธารณะ
มีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่การจราจรด้วย
การที่จำเลยทั้งสี่ใช้พื้นที่ถนนสาธารณะซึ่งมีความกว้างเพียง 4 เมตร จอดรถของตนทั้งคันในลักษณะหวงกันการใช้ประโยชน์ของผู้อื่น ทั้ง ๆ
ที่ควรจะใช้แนวร่นอาคาร 1 เมตร
ที่อยู่ติดกับถนนสาธารณะดังกล่าวของตนประกอบการจอดรถด้วย
แต่กลับใช้เป็นที่วางกระถางต้นไม้
ซึ่งมิใช่เหตุจำเป็นที่จะใช้แนวร่นอาคารเพื่อการนั้น
ย่อมเป็นการกระทำที่เกินสิทธิของตนและคำนึงถึงประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว
โดยไม่คำนึงถึงสิทธิในการใช้ทางสาธารณประโยชน์ของผู้อื่นที่มีอยู่ร่วมกัน
เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนเกินควร ไม่สามารถใช้พื้นที่ถนนส่วนที่เหลือในการจอดรถของตนได้
จึงรับฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยทั้งสี่
เป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นอันมิชอบด้วยกฎหมาย
เป็นการกระทำละเมิด ตาม ป.พ.พ. มาตรา 420 และมาตรา 421
และถือว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษแล้ว
โจทก์จึงมีสิทธิขอบังคับให้จำเลยทั้งสี่จอดรถในแนวร่นอาคารอันเป็นแดนกรรมสิทธิ์ของจำเลยทั้งสี่ได้
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments