จดทะเบียนสมรสกัน แต่ไม่อยู่กินเป็นสามีภริยากัน การสมรสนั้นตกเป็น “โมฆะ”
การจดทะเบียนสมรสนั้น คือการสมรสที่ชายและหญิงยินยอมเป็นสามี
ภริยากัน และต้องแสดงการยินยอมนั้นให้ปรากฏโดยเปิดเผยต่อหน้า
นายทะเบียนและให้นายทะเบียนบันทึกความยินยอมนั้นไว้
และนอกจากจะเป็นการแสดงออกถึงความรักที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ยังเป็นการรักษาสิทธิต่างๆในการเป็นสามีหรือภรรยากันตามกฎหมายต่อกันด้วย
แต่ทั้งนี้ อยากให้คุณมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป
โปรดมองไปถึงความรักที่มีให้ต่อกันที่แท้จริง ตกลงจะเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน
อยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาทั้งในทางธรรมชาติและกฎหมาย ได้ดูแลความทุกข์สุข
เจ็บป่วยซึ่งกันและกันต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของตน
และทำให้ทุกวันเปรียบเสมือนข้าวใหม่ปลามัน
จงอย่ามองความรักเป็นเพียงผลประโยชน์หรือทรัพย์สินที่ที่คุณจะได้รับจากคนรัก
เพราะมิฉะนั้นแล้ว สิ่งที่คุณนั้นกระทำนั้นมันอาจใช่ความรักจริงๆ
หากเพียงแต่รักในผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับตัวคุณเท่านั้น
อีกทั้งการสมรสนั้นยังอาจตกเป็นโมฆะตามกฎหมายอีกด้วย ดังนั้น
การจดทะเบียนสมรสที่จะให้มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายนั้น
การแสดงออกถึงเจตนาที่จะยินยอมให้ความรักของตนนั้นปรากฏโดยเปิดเผยต่อสาธารณะชนและนายทะเบียนว่าเรานั้น
ประสงค์จะใช้ชีวิตคู่อยู่กินเป็นสามีภริยาต่อกันจึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง
ซึ่งในเรื่องนี้มีคำพิพากษาศาลฎีกาวินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานครับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2545
การสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงยินยอมเป็นสามีภริยากัน
โดยทั้งสองคนตกลงจะเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน
ต้องอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาทั้งในทางธรรมชาติและกฎหมาย ได้ดูแลความทุกข์สุข
เจ็บป่วยซึ่งกันและกันต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของตน
การที่จำเลยจดทะเบียนสมรสกับ ช. แต่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกัน เมื่อ ช. ป่วย
โจทก์เป็นผู้พา ช. ไปโรงพยาบาลและเสียค่ารักษาพยาบาลให้ และยังให้ ช.
ไปพักอาศัยอยู่ด้วย
ส่วนจำเลยยังคงพักอาศัยอยู่กับน้องสาวและไม่เคยออกค่ารักษาพยาบาลทั้งไม่เคยมาเยี่ยมเยียน
ช. เลย เห็นได้ชัดว่าจำเลยกับ ช. มิได้อยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาแต่อย่างใด
จำเลยเองก็ยังรับว่าไม่อยากไปจดทะเบียนสมรส แต่ ช.
เป็นผู้พาไปโดยบอกว่าถ้าไม่จดทะเบียนสมรสแล้วจะไม่มีผู้ใดมีสิทธิรับเงินบำเหน็จตกทอด
ซึ่งก็ปรากฏว่าเมื่อ ช. ถึงแก่กรรมจำเลยเป็นผู้ได้รับเงินบำเหน็จตกทอดมาจริง
แสดงว่าจำเลยจดทะเบียนสมรสกับ ช. โดยมิได้มีเจตนาที่จะเป็นสามีภริยากันมาแต่แรก
หากแต่เป็นการกระทำเพื่อให้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จตกทอดเท่านั้น
การสมรสของจำเลยจึงฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1458 ตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1495
กฎหมายที่เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1458 การสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายหญิงยินยอมเป็นสามี
ภริยากัน
และต้องแสดงการยินยอมนั้นให้ปรากฏโดยเปิดเผยต่อหน้านายทะเบียนและให้นายทะเบียนบันทึกความยินยอมนั้นไว้ด้วย
มาตรา 1495 การสมรสที่ฝ่าฝืน มาตรา 1449 มาตรา 145๐ มาตรา 1452 และมาตรา 1458 เป็นโมฆะ
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
เป็น พระราชวงศ์ ประเทศ สแปน แล้ว สามีไม่มารับ ภรรยา ไปอยู่กินด้วยกัน และ ยังมีคนปิด บัง ความจริงจาก ผู้เป็น ภรรยา สาวไทย เราจะ ช่วยให้ ปภาดา สงจันทร์ และ คู่รัก เจอกันและสมหวังได้อย่างไร คะ ตอบ.คำถาม
ทะเบียนสมรสจะเป็นโมฆะไหมค่ะ เพราอยากจะจดทะเบียนสมรสกับแฟนใหม่
8 ปีแล้วทะเบียนสมรสถือเป็นโมฆะไหมค่ะ
ไม่งั้นไม่ยอมหย่า แต่เรื่องนี้ฝ่ายหญิงเค้าฟ้องได้หรอทั้งๆที่มีครอบครัวไปแล้ว
จะไปทำงานก็ไม่มีใครเลี้ยงให้ พอจะเอาลูกกลับบ้านเกิดไปเลี้ยงที่บ้านเพราะคิดว่าก็ไม่มีใครช่วยเลี้ยงเต็มที่อยู่เเล้วก็จะเอากลับไปเลี้ยงที่บ้านเพราะจะได้สบายใจเราด้วยเพราะอยู่เเต่ในห้องเล็กอึดอัดลงไปข้างล้างก็เป็นร้านนวดกลัวลูกติดโควิด.
ที่อยู่สามีเป็นตึกพานิช 3ชั้น ชั้นบนตากผ้า ชั้นสองครัวบอกกับห้องนอน ทั้งบ้านมีห้องนำ้ห้องเดียวใช้รวมกับหมอนวดลูกค้า เเละเป็นร้านนวด เรามองว่าไม่เหมาะกับการเลี้ยงเด็กพอเขาเดินได้หรือไปเป็นมันอันตรายอย่างมากเพราะเป็นชั้นบรรไดสูง เเละคับเเคบ เเออัด เปิดหน้าต่างรับลมก็ไม่ได้ฝุ่นรถเยอะมากค่ะ อีกอย่างสามมีเลิกงานมาก็ไม่ช่วยจับของลูกเลยไม่ช่วยเลี้ยงทำไหร่ ส่วนมากอาบนำ้เล่นกับลูกเเปปนอน ล้างขี้เยี้ยวลูกยังไม่ทำเลย บอกกี่ครั้งเขาก็ไม่ทำ ต้องด่าว่าถึงทำเเล้วก็ไม่พอใจ เราเลยมองว่าเขาไม่สมควรเลี้ยงเด็ก เพราะทุกอย่างตลอดเวลาเราเป็นคนจัดการกรเแนอยู่ของลูกทุกอย่างตั้งที่นอนซักผเาล้างขวดนม อาบนำ้ทำกับข้าวป้อนข้าวลูก ล้างขี้คนเดียวเเทบทุกอย่างค่ะ มาสุดเขากลับมาจากทำงานก็ออกไปสูบบุหรี่เป็นชั่วโมงสองชั่วโมงก็มานอน. เเม่เขาก็เข้าข้างเเต่ลูก อีกอย่างเเต่เขาก็ทำเเต่งานเกือนทั้งวันเเทบทั้งวันมีเวลาเเค่กินที่จะมาอุ้มให้เเปปเดียว. เเต่พอเราจะเอาลูกกลับบ้านทางครอบครัวเเฟนกีดกันเเม่ย่ากีดกันสามีกีดกัน ในเมื่อเขาเลี้ยงเราไม่ดีเลี้ยงลูกไม่ดีเราก็ไม่ทนค่ะ เราสามมารถหาเงินเลี้ยงลูกเองได้ลูกกินอยู่ดีกว่านี้มีสังคมการเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ เพราะตัวเราไม่มีภาระอะไร อีกอย่างทางบ้านก็มีที่ทางเยอะพอสมควร เเต่ผิดกับทางบ้านเขาต้องเช่าอยู่เดือนละ20000รวมค่านำ้ไฟ ค่างวดรถ ค่ากิน เเต่ผิดกับที่บ้านบ้านไม่ได้เช่ามีทุ้งนาให้ดูอากาศดี. ข้าวไม่ได้ซื้อ เหลือกินเหลือใช้ ตอนเเรกออกมาอยู่กับสามมีคิดว่าสามีเลี้ยงดูได้เลยไม่จำเป็นต้องพึ่งคนที่บ้าน เราเลยจะเเต่ทะเบียนไม่มีงานหมั้นหรือเเต่เพราะฝ่ายเเต่เเม่สามีไม่ยอมหมั่น ไม่ยอมคุยกับฝ่ายผู้ใหญ่ เห็นเเก่ตัวอยู่มากค่ะ รู้ว่าเราท้องยังไม่ยอมหมั่นเลยค่ะ อีกอย่าตอนท้องได้3-4เดือนเเม่สามีบอกให้เราไปทำเเท้งค่ะเขากลัวว่าลูกในท้องจะพิการเป็นภาระเขาเพราะเรามีโรคประจำตัวเเต่โรคเราสงบเเล้ว เราเลือกเก็บไว้ค่ะเพราะเรารู้ตัวเองอยู่ว่าท้องได้หรือไม่เราปรึกษาหมอตลอด เเต่ฝ่ายเเม่สามีขอบฟังเพื่อนค่ะ ตั้งเเต่นั้นมาเราเกียจเเม่สามีมากค่ะเเต่ไม่เคยด่าต่อหน้าพยายามคุยระบายกับเเฟน เเต่เเฟนก็เข้าข้างเเม่ค่ะ ฟ้องเเม่ทุกเรื่องเราคิดว่าเขาจะเข้าใจว่าเเม่สามีเป็นเเบบนี้ หาเเต่เรื่องให้เราหนักใจค่ะ ชอบพลานเงินจากลูกพอลูกไม่ให้ก็น้อยใจ ที่ไม่ได้ให้เพราะค้องเลี้ยงเมียกับลูกค่ะ เลยไม่พอให้. จนทุกอย่างมันมารวมกันเราเลยมองว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกะทำค่ะเลยอยากออกมาจากตรงนั้น มีเเต่เรื่องกดดันค่ะ. เเย่มากค่ะ อีกอย่างตอนนี้ออกมาเเล้วไม่มีสิทธิในตัวลูกเลยค่ะ พออกมาต่างฝ่ายต่างเกียจกันเเต่เอาลูกออกมาไม่ได้ตอนออกมาค่ะเพราะที่นั้นเขาฉุดไว้ เลยได้เเต่ไปหาลูก
เเต่ไปหาลูกก็ไม่สบายใจค่ะ เพราะเขาปิดกั้นมาก เขาบอกเขาเกียจเราไม่ชอบเลยให้มาเเค่ถึงเวลานี้ก็กลับ เพราะบ้านเขา ให้เเค่มาหาเเต่ไม่ให้เอาไปข้างนอก ยอกรอให้เด็กโตก่อน ทั้งที่หนูเป็นเเม่เเค่จะไปหาลูกยังลำบาก ความเป็นเเม่ดิ้นรนไปหาลูกลึกๆหวังอยากได้เขามาครอบครองเเค่คนเดียวไม่ไม่อยากให้เขาอยู่ที่นั้น เพราะมองว่าเขาไม่สามารถเลี้ยงได้เเละ ที่คับเเคบไม่มีที่ให้เด็กวิ่งความเป็นอยู่เสียงต่อโรคร้าย. เขาถือว่าเขาได้ลูกเเละบ้านก็บ้านเขาเขาเลยกดขี่เรา เขาจะฟ้องเอาลูกเราให้เป็นเเค่เขาปกครอง ทั้งที่เราไม่ยอมหย่าเพราะเราต้องการเเค่ลูกเเต่ไม่ต้องการเงิน เขาหลอกเราครั้งเเล้วครั้งเล่าตอนเเรกบอกจะให้ลูกเเต่ต้องหย่าเราก็เชื่อเพราะอยากได้ลูกมา ก็หยุดงานจะไป พอจะถึงวันบอกจะฟ้อง บางทีพูดอะไรกับเขาพอเขาไม่พอใจก็จะฟ้องอย่างเดียว ไม่ยุติธรรมค่ะ เขาบอกรายได้เราน้อยกว่าเขายังไงเขาก็ชนะคดี เเต่เขามีหนีรถ
เราไม่มีหนี้. เขาก็ให้เเม่ช่วยค่านมลูกตลอดโดยที่เงินตัวเองไม่พอเลี้ยงเมียเเละลูกได้ ต้องยืมเขามาอีกด้วยซำ้ เเบบนี้เราทำอะไรไม่ได้เลยหรอค่ะ ทั้งที่เป็นเเม่เสี่ยตายเพราะลูก ค่ารักษาพยาบาลค่าคลอดก็ไม่ต้องเสียลูกใช้สิทธิเเม่ยอมเจ็บยอมผ่าคลอดรูปร่ายย้วยหมดเพราะรักลูก เเต่อีกฝ่ายเเม่สามีกับสามีเป็นคนอื่มีสิทธิทั้งที่เคยบอกให้ไปทำเเท้งทั้งอาย่าเเม่สามมีทุกคนบอกให้ไปทำเเท้งตอน4เดือนนี้น่ะ. เเย่สุดๆค่ะ. ตอนท้องเเปดเดือนเราต้องจัดห้องเตรียมห้องทำห้องเเต่ห้องซื้อของเลือ
กของให้ลูกเองหมด ไม่มีสามมีหรือเเม่สามีช่วยเลย
ต้องขอเงินน้าตัวเองเพื่อมาซื้อที่นอนให้ลูกไว้นอนตอนคลอด ทั้งที่เเม่สามมีมีเงินเเต่ไม่คิดจะซื้อไว้ให้หลายเพราะรอโบราณบอก นี้ละค่ะ พอคลอดเเม่สามมีซื้อเเค่กาละมังกับหยืกนำ้ บางทีเราว่าไม่สมควรเป็นย่าคนเลยจริงๆค่ะ ตอนท้องเขาหวังเเต่จะเก็บๆเเม่สามมี ทั้งที่เราท้องเเทบไม่มีอะไรจะกินบำรุ่ง ก็ยังงกเงินจนทุกวันนี้ เเต่เรื่องเเอาใจคนอื่นใช้เงินเก่งค่ะ เเต่เรื่องในบ้านไม่ค่อยช่วย คนเป็นเเม่ถ้าขาดลูกก็ไม่มีกำลังใจเเล้วค่ะ หาทางออกไม่เจอ