หากที่ดินมีทางเข้าออกสู่สาธารณะแล้ว ต่อมาเกิดความไม่สะดวกไม่อาจนำความดังกล่าวมาร้องขอผ่านที่ดินของบุคคลอื่นได้ไม่
ตัวอย่าง นาย ก
ทำธุรกิจก่อสร้างต้องมีรถบรรทุกขนหินและปูนเข้าออกทางผ่านสาธารณะเป็นประจำ
ต่อมาชาวบ้านในละแวกนั้นเห็นว่าการที่ นาย ก
นำรถบรรทุกของหนักเข้าออกผ่านทางที่ดินสาธารณะเป็นประจำทำให้ถนนเกิดความเสียหาย
จึงรวมตัวกันเพื่อร้องเรียนไปยังผู้มีหน้าที่รับผิดชอบกระทบกระทั่งมีปากเสียงกับชาวบ้านเป็นประจำ
นาย ก เห็นว่าหากผ่านที่ดินของนาย ข
จะสามารถผ่านออกไปสู่ทางสาธารณะอีกเส้นทางหนึ่งได้
จึงร้องขอต่อศาลทางจำเป็นผ่านทางที่ดินของบุคคลอื่น
ดังนั้นเมื่อไม่ปรากฏว่านาย ก
มีความจำเป็นที่จะผ่านที่ดินของบุคคลอื่นแต่อย่างใด นาย ก
ไม่อาจร้องขอออกที่ดินของบุคคลอื่นอีกได้
และเหตุที่มีปากเสียงกับชาวบ้านนั้นก็จำต้องบังคับตามกฎจราจรทางบอกทั่วไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
13874/2557
ด้านทิศตะวันออกของที่ดินของโจทก์อยู่ห่างจากทางสาธารณประโยชน์เพียง
50 เซนติเมตร เท่ากับความกว้างของที่ดินโฉนดเลขที่ 41058
ซึ่งปิดล้อมอยู่ด้านนี้
แต่ด้านทิศตะวันตกของที่ดินของโจทก์อยู่ห่างจากทางสาธารณประโยชน์ถึง 4 เมตร 50 เซนติเมตร
เท่ากับความกว้างของที่ดินของจำเลยทั้งสี่
จากที่ดินของโจทก์เมื่อผ่านที่ดินโฉนดเลขที่ 41058 เพื่อออกสู่ถนนพระรามที่
2 ก็เป็นระยะทางที่ใกล้กว่าที่จะผ่านที่ดินของจำเลยทั้งสี่ออกสู่ถนนพระรามที่
2 ถึง 280 เมตร
แม้ทางสาธารณประโยชน์ด้านทิศตะวันออกจะมีความกว้างประมาณ 4 เมตร
ถึง 6 เมตร 40 เซนติเมตร
ส่วนทางสาธารณประโยชน์ด้านทิศตะวันตกแม้มีความกว้างถึง 12 เมตร
มี 4 ช่องเดินรถ แต่ก็ไม่ได้มีความกว้างเช่นนี้ตลอดแนวที่ดินของจำเลยทั้งสี่
คงมีความกว้างเช่นนี้เฉพาะบริเวณที่อยู่หน้าสวนหย่อมสำหรับพักผ่อนและออกกำลังกายของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
พระราม 2 พ้นจากนั้นก็ลดลงเหลือเพียง 2 ช่องเดินรถ
เฉพาะความกว้างเพียงบางส่วนของทางสาธารณประโยชน์ด้านนี้ก็ไม่ได้ทำให้ความสะดวกในการใช้ทางสาธารณประโยชน์ด้านทิศตะวันตกมีมากกว่าทางด้านทิศตะวันออก
โดยเฉพาะทางสาธารณประโยชน์ด้านทิศตะวันตกนี้ติดกับทางเข้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
พระราม 2 และอยู่ตรงข้ามกับสวนหย่อมสำหรับพักผ่อนและออกกำลังกายของห้างซึ่งน่าจะมีการจราจรที่พลุกพล่านมากกว่าทางสาธารณประโยชน์ด้านทิศตะวันออก
เมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นของโจทก์ที่ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณประโยชน์แล้ว
ทางสาธารณประโยชน์ด้านทิศตะวันออกจึงมีความเหมาะสมแก่ความจำเป็นมากกว่าเพราะเนื้อที่ดินที่จะต้องสูญเสียไปเนื่องจากการทำทางผ่านมีความกว้างเพียง
50 เซนติเมตร
น้อยกว่าเนื้อที่ดินที่จำเลยทั้งสี่ต้องสูญเสียไปเนื่องจากการผ่านของโจทก์ถึง 4
เท่า ทั้งเมื่อเทียบขนาดความกว้างของที่ดินแล้ว
ที่ดินของจำเลยทั้งสี่ย่อมอยู่ในสภาพที่สามารถทำประโยชน์ได้มากกว่าที่ดินโฉนดเลขที่
41058 ซึ่งปรากฏว่า จำเลยทั้งสี่ทำร้านขายอาหารและเครื่องดื่มอยู่บนที่ดินด้วย
ส่วนที่ดินโฉนดเลขที่ 41058 มีสภาพเป็นร่องสวน
ถนนภายในหมู่บ้านเป็นทางสาธารณประโยชน์
ประชาชนทั่วไปย่อมมีสิทธิใช้สอยร่วมกัน
ผู้ใดจะกีดกันหรือไม่ยินยอมให้ผู้อื่นใช้สอยไม่ได้เพราะไม่ใช่ทรัพย์ส่วนตัว
ส่วนผู้ที่ใช้สอยไม่ว่าเป็นสาธารณประโยชน์ประเภทใดก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั่วไปและกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสาธารณประโยชน์นั้นเพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่นและไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่สาธารณประโยชน์นั้นเช่นกัน
ที่โจทก์อ้างว่า ชาวบ้านภายในหมู่บ้าน พ. จะไม่ยินยอมให้โจทก์ใช้ถนนภายในหมู่บ้านและการนำรถบรรทุกดินผ่านถนนในหมู่บ้านจะทำให้ถนนเสียหาย
จึงไม่ใช่เหตุผลที่โจทก์จะนำมาอ้างว่าโจทก์ไม่สามารถใช้ทางสาธารณประโยชน์ภายในหมู่บ้านได้
เมื่อยังมีที่ดินโฉนดเลขที่ 41058 ที่โจทก์จะผ่านออกถึงทางสาธารณประโยชน์ได้และจะเกิดความเสียหายแก่ที่ดินที่ล้อมอยู่น้อยกว่าของจำเลยทั้งสี่
ทั้งไม่ได้ทำให้โจทก์สูญเสียความสะดวกหรือประโยชน์ใช้สอยที่พอสมควรแก่ความจำเป็นที่จะออกสู่ทางสาธารณประโยชน์ได้แล้ว
แต่โจทก์กลับมาขอผ่านในที่ดินของจำเลยทั้งสี่ซึ่งจะได้รับความเสียหายมากกว่าจึงเป็นกรณีเกินกว่าความจำเป็นของโจทก์ที่จะออกสู่ทางสาธารณประโยชน์
จึงไม่ชอบด้วย ป.พ.พ. มาตรา 1349
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
สาขาเชียงใหม่ โทร 080-3955536
แอดไลน์ @closelawyercmi หรือ คลิก https://lin.ee/Zu2JmNU
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments