ชายหรือหญิงคู่หมั้นไม่อาจนำการหมั้นมาฟ้องให้ศาลมีคำสั่งบังคับให้จดทะเบียนสมรสได้
วันใดวันหนึ่งหากชายและหญิงได้หมั้นหมายกันไว้ว่าจะไปจดทะเบียนแต่งงานกันในอนาคตและต่อมา
ชายหรือหญิงไม่ยอมจดทะเบียนสมรสด้วย ตามกฎหมายชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายถูกบอกเลิกการหมั้นหรือ
ปฏิเสธการแต่งงานเรียกร้องได้เพียงแค่ของหมั้นและค่าเสียหายหากมา
ไม่อาจะฟ้องขอให้ศาลสั่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปจดทะเบียนสมรส
หรือใช้คำพิพากษาของศาลแสดงแทนเจตนาไม่ได้
อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่
555/2550 จำเลยที่ 2
บอกโจทก์ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ต้องการสมรสกับโจทก์
เป็นการบอกเลิกสัญญาหมั้นของจำเลยที่ 2 แต่เพียงฝ่ายเดียวไม่มีผลผูกพันโจทก์
โจทก์กับจำเลยที่
2
สมัครใจเลิกสัญญาหมั้นกัน ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า จำเลยที่ 2
มีสิทธิบอกเลิกสัญญาหมั้นได้นั้น จำเลยทั้งสองมิได้ให้การต่อสู้คดีในปัญหาดังกล่าวไว้
แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวจะหยิบยกปัญหาเรื่องการบอกเลิกสัญญาของจำเลยที่
2 ขึ้นวินิจฉัยก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง
จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ประกอบ
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534
มาตรา 1437
การหมั้นจะสมบูรณ์เมื่อฝ่ายชายได้ส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินอันเป็นของหมั้นให้แก่หญิงเพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับหญิงนั้น
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments