ทำท่าทางเหมือนจะชักอาวุธออกมาโดยล้วงเข้าไปในบริเวรเอว ถือเป็นการขู่เข็ญและเป็นความผิดต่อกฎหมายหรือไม่

ทำท่าทางเหมือนจะชักอาวุธออกมาโดยล้วงเข้าไปในบริเวรเอว ถือเป็นการขู่เข็ญและเป็นความผิดต่อกฎหมายหรือไม่

 

          การขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายนั้น อาจขู่ตรง ๆ หรือใช้ถ้อยคำ ทำกิริยา หรือทำประการใดให้เข้าใจได้เช่นนั้น เป็นการแสดงให้ผู้ถูกขู่เข็ญเข้าใจว่าจะได้รับภัยจากการกระทำของผู้ขู่เข็ญ การที่บังคับเอาโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหายโดยท่าทางเหมือนจะชักอาวุธออกมาโดยล้วงเข้าไปในเสื้อบริเวณเอว แม้ไม่ได้ใช้กำลังประทุษร้าย ไม่ได้ใช้อาวุธมาขู่บังคับหรือพูดว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายก็ตาม แต่กิริยาท่าทีที่ทำท่าทางเหมือนกับจะชักอาวุธออกมานั้น ย่อมถือได้ว่าเป็นการขู่บังคับ ประกอบกับผู้เสียหายเบิกความว่าเหตุที่มอบโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย อันเป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นการขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย จึงต้องจำยอมให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ไป

         

          คำพิพากษาฎีกาที่ 868/2554

การขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานปล้นทรัพย์นั้น อาจขู่ตรง ๆ หรือใช้ถ้อยคำ ทำกิริยา หรือทำประการใดให้เข้าใจได้เช่นนั้น เป็นการแสดงให้ผู้ถูกขู่เข็ญเข้าใจว่าจะรับภัยจากการกระทำของผู้ขู่เข็ญการที่จำเลยกับพวกบังคับเอาโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหาย โดย ม. พวกของจำเลยทำท่าทางเหมือนจะชักอาวุธออกมาโดยล้วงเข้าไปในเสื้อบริเวณเอว แม้มิได้ใช้กำลังประทุษร้าย มิได้ใช้อาวุธมาขู่บังคับหรือพูดว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายก็ตาม แต่กิริยาท่าทีของ ม. ดังกล่าว เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นการขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวว่าจำเลยกับพวกจะใช้กำลังประทุษร้ายจึงต้องจำยอมให้โทรศัพท์เคลื่อนที่แก่จำเลยกับพวกไป การกระทำของจำเลยกับพวกครบองค์ประกอบความผิดฐานปล้นทรัพย์แล้ว

ขณะกระทำความผิดจำเลยอายุไม่เกิน 20 ปี และกระทำผิดโดยมิได้ใช้อาวุธลักษณะเป็นการกระทำของวัยรุ่นที่คึกคะนอง ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพตลอดมาและชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 20,000 บาท ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ ปรากฏว่าจำเลยเป็นนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนสมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย


ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 339  ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ

          (1) ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป

          (2) ให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น

          (3) ยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้

          (4) ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ

          (5) ให้พ้นจากการจับกุม

          ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท

 

มาตรา 340 วรรคแรก ผู้ใดชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสามแสนบาท


ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer


แบบฟอร์มปรึกษากฎหมาย/คดีความ

กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทีมงานจะตอบคำถามท่านภายใน 3 วัน

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 641,735