เป็นผู้เสียหายต้องฟ้องดำเนินคดีอาญาภายในอายุความ!!

เมื่อท่านเป็น “ผู้เสียหาย” ในคดีอาญาแล้วอย่าได้ชักช้าหรือคิดว่าจะดำเนินคดีเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะการปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยนานไปอาจมีผลเสียในด้านกระบวนวิธีพิจารณาคดี การพิสูจน์พยานหลักฐาน และการลงโทษผู้กระทำความผิดได้ หรือที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ คดีของท่านอาจจะขาดอายุความในที่สุด(แพ้ตั้งแต่ยังไม่ฟ้อง) ดังนั้น จึงควรรวบรวมพยานหลักฐาน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือท่านจะว่าจ้างทนายความในการดำเนินคดีให้ท่านเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ก็สุดแท้แต่ความสามารถของแต่ละท่าน

อายุความ ตามกฎหมายอาญาและกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา คือ ระยะเวลาสำหรับการฟ้องคดีและอายุความสำหรับการนำตัวผู้กระทำความผิดอาญามาลงโทษ โดยขึ้นอยู่กับอัตราโทษของแต่ละฐานความผิด

.

มาตรา 95 ในคดีอาญา ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายในกำหนดดังต่อไปนี้ นับแต่วันกระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ

(1) ยี่สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกยี่สิบปี เช่น ฆ่าคนตายโดยเจตนา

(2) สิบห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าเจ็ดปีแต่ยังไม่ถึงยี่สิบปี เช่น ปล้นทรัพย์

(3) สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งปีถึงเจ็ดปี เช่น ลักทรัพย์

(4) ห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งเดือนถึงหนึ่งปี เช่น บุกรุก

(5) หนึ่งปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนลงมาหรือต้องระวางโทษอย่างอื่น เช่น ทะเลาะวิวาท

ถ้าได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลแล้ว ผู้กระทำความผิดหลบหนีหรือวิกลจริต และศาลสั่งงดการพิจารณาไว้จนเกินกำหนดดังกล่าวแล้วนับแต่วันที่หลบหนีหรือวันที่ศาลสั่งงดการพิจารณา ก็ให้ถือว่าเป็นอันขาดอายุความเช่นเดียวกัน

 

การนับอายุความเพื่อฟ้องคดีอาญาตาม มาตรา 95

1. ถ้าไม่ได้ฟ้องและไม่ได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายในกำหนดระยะเวลาตาม (1) – (5) คดีเป็นอันขาดอายุความ “วันเริ่มนับอายุความ” นับตั้งแต่วันที่มีความผิดเกิดขึ้น

2. ถ้าได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลแล้ว ผู้กระทำความผิด “หลบหนี” ศาลจะสั่งงดการพิจารณาไว้ แต่ถ้าผู้กระทำความผิดหลบหนีจนเกินกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายแล้ว นับแต่วันที่หลบหนีหรือวันที่ศาลสั่งงดการพิจารณา ก็ให้ถือว่าเป็นอันขาดอายุความเช่นเดียวกัน

 

มาตรา 96 ภายใต้บังคับมาตรา 95 ในกรณีความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายมิได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ เช่น คดียักยอก คดีฉ้อโกง

การนับอายุความกรณีนี้นับแต่รู้เรื่องและรู้ตัว กล่าวคือ 

1. รู้ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นและ 

2. รู้ตัวผู้กระทำความผิด

ครบสองประการอายุความจึงเริ่มนับอายุความ เมื่ออายุความเริ่มนับแล้วถ้าหากท่านไม่ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน(ตำรวจ) ภายใน 3 เดือน คดีของท่านก็เป็นอันขาดอายุวาม

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8141 - 8145/2561

ความผิดฐานร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ตาม ป.อ. มาตรา 371 และฐานร่วมกันยิงปืนโดยใช่เหตุ ตามมาตรา 376 มีอายุความฟ้องภายใน 1 ปี ตาม ป.อ. มาตรา 95 (5) เมื่อเหตุคดีนี้เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2557 แต่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 12 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 ความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวจึงขาดอายุความ ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษายกฟ้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 และ 225

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3870/2562

โจทก์ทราบว่า จำเลยทั้งห้าร้องเรียนโจทก์ว่าทุจริตต่อหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 ประกอบกับได้ความจากคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่า เคยเรียกโจทก์และจำเลยทั้งห้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยในปี 2557 เนื่องจากเห็นว่าโจทก์และจำเลยทั้งห้าเป็นเพื่อนร่วมงานกัน จึงเชื่อว่าโจทก์ทราบมูลความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดว่าเป็นจำเลยทั้งห้าตั้งแต่วันที่มีการร้องเรียนในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 เมื่อความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าตาม ป.อ. มาตรา 326 และ 328 เป็นความผิดอันยอมความได้ แต่โจทก์มิได้ร้องทุกข์ภายในสามเดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด โดยโจทก์นำคดีนี้มาฟ้องเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2559 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากมีการร้องเรียนแล้วกว่า 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความตาม ป.อ. มาตรา 96

ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer


แบบฟอร์มปรึกษากฎหมาย/คดีความ

กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทีมงานจะตอบคำถามท่านภายใน 3 วัน

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 641,737