หนี้เดิมไม่มีหรือไม่มีหนี้อยู่จริง รับสภาพหนี้ไม่ได้
การรับสภาพหนี้นั้น
คือการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดของลูกหนี้
เพื่อยอมรับว่าลูกหนี้และเจ้าหนี้เป็นหนี้กันจริงและมีสิทธิเรียกร้องต่อกัน
ส่งผลให้อายุความในหนี้ที่รับสภาพนั้นสะดุดหยุดลง
และเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ตั้งแต่วันรับสภาพหนี้ ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา
193/14 (1) การรับสภาพหนี้โดยลูกหนี้นั้น มีอยู่ 5 กรณี ดังนี้
1.รับสภาพต่อเจ้าหนี้ตามสิทธิเรียกร้องโดยทำเป็นหนังสือ
2.ชำระหนี้ให้บางส่วน
3.ชำระดอกเบี้ย
4.ให้ประกัน
5.กระทำการใดๆอันเป็นการรับสภาพหนี้โดยปริยาย
ส่วนที่นิยมทำกันนั้นมาก
ก็จะเป็นการรับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้เป็นหนังสือนั่นเอง
อย่างไรก็ดี หากหนี้ที่นำมารับสภาพหนี้กันนั้น เป็นหนี้จากนิติกรรมที่ขัดต่อกฎหมาย
หรือมีผลเป็นโมฆะ ย่อมเป็นนิติกรรมลที่ไม่ก่อให้เกิดหนี้
และเมื่อไม่มีหนี้ต่อกันแล้ว ก็ไม่อาจรับสภาพหนี้ต่อกันได้
เช่น
สัญญาซื้อขายกิจการที่ทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายที่ควบคุมการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวด้วยการให้ผู้มีสัญชาติไทยมีชื่อถือหุ้น
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5457/2560) สัญญาซื้อขายที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5172/2560) บันทึกข้อตกลงในส่วนที่จะถอนฟ้องในคดีอาญาแผ่นดิน(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8921/2559) สัญญาให้ช่วยวิ่งเต้นหรือดำเนินการช่วยเหลือให้เข้ารับราชการ
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4727/2559)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
2326/2560 การรับสภาพหนี้มิใช่เป็นการก่อสิทธิเรียกร้องขึ้นมาใหม่
หากไม่มีมูลหนี้เดิมต่อกันแล้วย่อมจะมีการรับสภาพหนี้ไม่ได้
การที่ผู้ร้องอ้างมูลหนี้ตามสัญญาจะซื้อจะขายมาจากหนังสือรับสภาพหนี้โดยผู้ร้องไม่สามารถนำสืบให้เห็นถึงมูลหนี้เดิมของหนังสือรับสภาพหนี้ได้
จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าหนังสือรับสภาพหนี้และสัญญาจะซื้อจะขายตามคำร้องของผู้ร้องมีมูลหนี้ต่อกันจริง
ผู้ร้องจึงไม่อาจขอให้ผู้คัดค้านที่ 1
ปฏิบัติตามสิทธิในสัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าวได้
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments