ทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกโปรดฟัง จะแบ่งมรดกได้ ต้องมีผู้จัดการมรดก เสียก่อน
บรรดาญาติพี่น้อง บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย
ได้มีทรัพย์สินระหว่างมีชีวิต จำพวก บ้าน รถยนต์ ที่ดิน เงินฝากในบัญชีธนาคาร
ธุรกิจครอบครัว หุ้นบริษัท หรือทรัพย์สินอื่นๆ อีกมากมาย ไว้
ภายหลังเมื่อเสียชีวิตลงทรัพย์สินที่ว่ามา ย่อมตกเป็นมรดกต้องแบ่งให้กับทายาทตามกฎหมายทันที
ซึ่งรายละเอียดว่าใครมีสิทธิได้รับมรดกเท่าไหร่อย่างไร
ใครเป็นทายาทที่มีสิทธิรับมรดกบ้าง ทีมงานทนายใกล้ตัวของเรา
คือท่านทนายศุภโชค ได้เคยกล่าวไปแล้ว
ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิ้งนี้ คลิก ๆ >>>>>>
https://www.facebook.com/closelawyer/posts/649882175216569:0
เมื่อมีคนเสียชีวิต และมีมรดก ที่จะต้องแบ่งให้กับทายาท
ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องมีผู้จัดการมรดก เพื่อดำเนินการจัดสรรทรัพย์สินแบ่งให้กับทายาทตามกฎหมายเสียก่อน
ดังนั้น มี 5 เรื่องที่ท่านควรรู้ในการจัดการมรดกหรือทรัพย์สินของผู้ตาย
คือ
1. จะขอเป็นผู้จัดการมรดก ได้เมื่อไหร่
เราจะขอจัดการมรดกได้ เมื่อเจ้ามรดกตาย เจ้ามรดกมีทรัพย์มรดก
และมีเหตุขัดข้องที่จะต้องจัดการมรดก โดยเหตุขัดข้องที่จะต้องการมรดก เช่น
เจ้ามรดกมี ที่ดิน 1 แปลง ทายาทไปสำนักงานที่ดิน
เพื่อจะโอนที่ดินของผู้ตายให้เป็นของตนเอง แต่เจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมจดทะเบียนให้
อ้างว่าต้องไปขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกก่อน อย่างนี้ถือว่ามีเหตุขัดข้องแล้ว
2. บุคคลที่จะเป็นผู้มีสิทธิร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก
ได้แก่
2.1 ทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกที่มีสิทธิรับมรดก เช่น บุตร
บิดามารดา คู่สมรสของเจ้ามรดก ผู้รับพินัยกรรมของเจ้ามรดก
หรือ
2.2 อาจเป็นบุคคลภายนอก ผู้มีส่วนได้เสียก็ได้ เช่น
เจ้าของร่วมในทรัพย์สินของเจ้ามรดก กรณีเช่นนี้ที่มีมากคือ
กรณีที่สามีภริยาไม่จดทะเบียนสมรสและมีทรัพย์สินร่วมกันนั่นเอง หรือพนักงานอัยการ
2.3 ประการสำคัญผู้ที่จะเป็นผู้จัดการมรดก ต้องบรรลุนิติภาวะแล้ว
และไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
และไม่เป็นบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย
เพราะกฎหมายเห็นว่าคนประเภทนี้ไม่สามารถรู้ผิดชอบ หย่อนความคิดอ่าน
มีหนี้สินล้นพ้นตัว ขืนไปจัดการทรัพย์สินคนอื่น
ก็มีแต่จะเสียหายยิ่งขึ้นไปเท่านั้น
3. การยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ต้องยื่นที่ศาลไหน
ปกติแล้วต้องยื่นคำร้องเป็นผู้จัดการมรดกที่เจ้ามีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลนั้นในขณะถึงแก่ความตาย
เช่น เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาขณะถึงแก่ความตายที่จังหวัดขอนแก่น ก็ยื่นที่ศาลที่เป็นภูมิลำเนาของผู้ตาย ได้แก่ศาลจังหวัดขอนแก่น นั่นเอง
แต่ในกรณีที่เจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรไทย
ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตอำนาจศาล
4. คำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกต้องทำอย่างไร
การทำคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก
ต้องเป็นเรื่องที่ผู้มีความรู้ในทางกฎหมายและทางปฏิบัติเท่านั้นจะเข้าใจและทำได้ถูกต้องให้ครบองค์ประกอบของกฎหมาย
เราประชาชนหรือมีอาชีพอื่น ย่อมไม่เข้าใจ ก็ต้องปรึกษานักกฎหมายหรือทนายความ เพราะคำร้องจะมีแบบคำร้อง
แล้วนำมาบรรยายในคำร้องระบุรายละเอียดต่างๆ เช่น ชื่อ ตำบล ที่อยู่ผู้ร้อง
เป็นทายาทผู้ตายๆ ผู้ตายเมื่อไหร่ มีหลักฐานการตาย
ผู้ตายมีทายาทกี่คนใครบ้าง มีทรัพย์สินอะไรบ้าง มีเหตุขัดข้องอย่างไร
และท้ายสุดก็ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก
5. หน้าที่ของผู้จัดการมรดก
หน้าที่ของผู้จัดการมรดก เป็นตัวแทนของทายาททั้งหมด
มีหน้าที่ในการรวบรวมทรัพย์มรดก แบ่งให้กับทายาท
ทั้งมีอำนาจในการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา
ต่อผู้ที่กระทำความเสียหายแก่กองมรดกด้วย
หมายเหตุ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฯ
มาตรา 1713 ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการจะร้อง
ต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ในกรณีดั่งต่อไปนี้
(1) เมื่อเจ้ามรดกตาย ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรมได้สูญหาย ไป
หรืออยู่นอกราชอาณาเขต หรือเป็นผู้เยาว์
(2) เมื่อผู้จัดการมรดกหรือทายาทไม่สามารถ หรือไม่เต็มใจที่จะจัด
การ หรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการ หรือในการแบ่งปันมรดก
(3)
เมื่อข้อกำหนดพินัยกรรมซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ไม่มีผลบังคับได้ด้วย ประการใด ๆ
การตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ถ้ามีข้อกำหนดพินัยกรรม ก็ให้ศาลตั้งตาม
ข้อกำหนดพินัยกรรม และถ้าไม่ข้อกำหนดพินัยกรรม ก็ให้ศาลตั้งเพื่อ
ประโยชน์แก่กองมรดกตามพฤติการณ์ และโดยคำนึงถึงเจตนาของ
เจ้ามรดกแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร
มาตรา 1718 บุคคลต่อไปนี้จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ได้
(1) ผู้ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
(2) บุคคลวิกลจริต หรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความ
สามารถ
(3) บุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย
มาตรา 1719 ผู้จัดการมรดกมีสิทธิและหน้าที่ที่จะทำการอันจำเป็น
เพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรม
และเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไป หรือเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดก
มาตรา 1720 ผู้จัดการมรดกต้องรับผิดต่อทายาทตามที่บัญญัติไว้ใน
มาตรา 809 ถึง มาตรา 812 มาตรา 819 มาตรา 823 แห่งประมวลกฎหมายนี้โดยอนุโลม
และเมื่อเกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ใช้ มาตรา 831 บังคับโดยอนุโลม
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments