ส่งโฉนดให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันสามารกระทำได้ไม่ผิดกฎหมาย
ส่งโฉนดให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันสามารกระทำได้ไม่ผิดกฎหมาย
บางท่านจะทำการกู้ยืมเงินกันพร้อมหลักประกันในมูลหนี้ไม่มากและไม่อยากไปจดทะเบียนจำนองต่อเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเพราะต้องเสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนอง
จึงทำการส่งมอบโฉนดให้เจ้าหนี้ยึดถือเป็นประกันการชำระหนี้
สามารถกระทำกันได้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องส่งคืนเนื่องจากไม่มีสิทธิยึดหน่วง
ตัวอย่าง
นายดำ ต้องการไปกู้ยืมเงินจากนาย ขำ จำนวน 100,000 บาท โดยทำสัญญากู้ยืมเงินกันกำหนดชำระ 1 ปีหลังจากนั้นพร้อมทั้งส่งมอบโฉนดที่ดินของตนให้กับนาย
ขำ ไว้เป็นประกัน ต่อมาเมื่อถึงกำหนดระยะเวลาตามสัญญานายดำไม่ชำระหนี้ให้กับนาย ขำ
กลับมาขอโฉนดคืนอ้างว่าโฉนดไม่ใช่ของนาย ขำ ไม่มีสิทธิยึดหน่วงต้องส่งมอบคืน
แต่นายขำกลับปฏิเสธ
ดังนั้นเนื่องจากโฉนดที่ดินที่นาย
ขำ ยึดไว้นั้นไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อการชำระหนี้ของโจทก์ จึงไม่เข้าข้อกฎหมายมาตรา
241 ว่าสามารถยึดหน่วงเพื่อประโยชน์แก่ตนเกี่ยวกับทรัพย์ นาย ขำ
จึงต้องคืนโฉนดให้แก่นาย ดำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
1894/2546
จำเลยผู้เป็นลูกหนี้เงินกู้มอบโฉนดที่ดินให้ผู้ร้องยึดถือไว้เป็นประกันเงินกู้
ผู้ร้องจึงมีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินไว้เป็นประกันการชำระหนี้เงินกู้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้คืนโดยอาศัยข้อตกลงดังกล่าวนั้นเอง
แต่สิทธิยึดถือโฉนดที่ดินเป็นเพียงบุคคลสิทธิบังคับกันได้ระหว่างคู่สัญญาไม่สามารถใช้ยันแก่บุคคลอื่นได้
ส่วนสิทธิยึดหน่วงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241
หมายถึง
การที่ผู้ครอบครองได้ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นและมีหนี้อันเป็นคุณแก่ผู้ครอบครองเกี่ยวด้วยทรัพย์สินที่ครอบครองนั้นหนี้ที่ผู้ร้องมีเป็นเพียงหนี้เงินกู้ที่ผู้ร้องจะได้รับชำระหนี้คืนเท่านั้นหาได้เป็นคุณแก่ผู้ร้องเกี่ยวด้วยที่ดินโฉนดดังกล่าวไม่
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการบังคับคดีแก่ที่ดินดังกล่าวผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงโฉนดที่ดิน
ข้อเท็จจริงที่ว่าจะมีการนำโฉนดที่ดินที่มอบให้ผู้ร้องยึดถือไปจำนองเป็นประกันการกู้เงินตามหนังสือสัญญากู้นั้นด้วย
เป็นข้ออ้างว่าผู้ร้องมีหนี้อันเป็นคุณแก่ผู้ร้องเกี่ยวด้วยโฉนดที่ดิน
ซึ่งจะทำให้ผู้ร้องมีสิทธิยึดหน่วงตามกฎหมาย
ที่จะสนับสนุนว่าผู้ร้องมีสิทธิยึดหน่วง ผู้ร้องต้องอ้างมาในคำร้องด้วย
จะนำสืบในชั้นไต่สวนคำร้องหาได้ไม่
เพราะมิใช่ข้อเท็จจริงอันเป็นเพียงรายละเอียดหรือข้อเท็จจริงที่เป็นส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงที่กล่าวมาในคำร้องของผู้ร้องแม้จะเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยก็ต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น
มาตรา
241
ผู้ใดเป็นผู้ครองทรัพย์สินของผู้อื่น
และมีหนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่ตนเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งครองนั้นไซร้
ท่านว่าผู้นั้นจะยึดหน่วงทรัพย์สินนั้นไว้จนกว่าจะได้ชำระหนี้ก็ได้
แต่ความที่กล่าวนี้ท่านมิให้ใช้บังคับ เมื่อหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนด อนึ่งบทบัญญัติในวรรคก่อนนี้
ท่านมิให้ใช้บังคับ
ถ้าการที่เข้าครอบครองนั้นเริ่มมาแต่ทำการอันใดอันหนึ่งซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments