ข้อความที่ว่า “เดี๋ยวให้ประกันจัดการเอง” “จะเคลียร์กับประกันเอง” ไม่ใช่การสละสิทธิเรียกร้องบริษัทประกันภัยมีสิทธิฟ้องไล่เบี้ยค่าเสียหายเอากับผู้กระทำละเมิดได้
ในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้น
ในบางกรณีคู่กรณีก็อาจไม่ได้ทำประกันกันไว้เสมอไป
หลายครั้งหลายหนที่เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว ตกลงกันได้ ณ
ที่เกิดเหตุโดยไม่จำเป็นต้องไปลงบันทึกประจำวันกันที่สถานีตำรวจท้องที่
แต่บางกรณีก็ต้องมีการลงบันทึกประจำวันเช่นกัน
ตามปกติแล้ว หากมีการลงบันทึกประจำวัน
ตัวแทนจากบริษัทประกันภัยก็จะขอบันทึกประจำวันดังกล่าวไปด้วย
เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติซ่อมแซมรถยนต์ให้กับลูกค้าแต่ละราย โดยหากเห็นว่าลูกค้าของตนเป็นฝ่ายถูกกระทำละเมิด
(หรือที่เรียกกันว่าฝ่ายถูก) แล้ว
บริษัทประกันก็จะนำค่าเสียหายดังกล่าวที่ได้จ่ายให้กับลูกค้าของตน
มาฟ้องเอากับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง(ฝ่ายผิด,ฝ่ายประมาท)
หรือหากคู่กรณีได้ทำประกันภัยไว้เช่นกัน
ก็เป็นเรื่องที่บริษัทประกันทั้งสองต้องไปว่ากล่าวกันเองต่อไป
แต่ในบางกรณีนั้น หากมีการตกลงกันได้
หรือลงบันทึกประจำกันในเรื่องค่าเสียหายไว้เท่านั้นเท่านี้บาท
ก็จะถือว่าเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน
เมื่อฝ่ายที่เสียหายยอมรับเงินดังกล่าวไปครบตามสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้วก็ย่อมถือว่าหนี้ระงับไปแล้ว
บริษัทประกันไม่มีอำนาจดำเนินคดีอีก เช่น นาย A ขับรถโดยประมาท
เฉี่ยวชนรถนาย B ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้
โดยระบุว่านายA ยอมชดใช้ค่าเสียหาย 10,000 บาท ตามที่ นายBเรียกร้อง กรณีเช่นนี้หากนาย A ชำระเงินให้กับนายBแล้ว ก็ถือว่าหนี้ระงับไป
ส่วนค่าเสียหายที่แท้จริงจะมีมากกว่าหรือน้อยกว่า10,000 บาท หรือไม่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ นายAต้องชำระให้นายBอีก
แต่สำหรับการลงบันทึกไว้ในทำนองว่า “เดี๋ยวให้ประกันดำเนินการ”,”จะเคลียร์กับประกันเอง”
กรณีดังกล่าวไม่ใช่การตกลงสละสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือปลดหนี้
เพียงแต่เป็นการแสดงเจตนาว่าจะใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันภัยเท่านั้น
บริษัทประกันภัยย่อมมีสิทธิฟ้องไล่เบี้ยค่าเสียหายเอากับผู้กระทำละเมิดอยู่เช่นเดิม
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4037/2558)
ข้อตกลงที่ระบุไว้ในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี มีข้อความสรุปว่า
ความเสียหายของรถยนต์พิพาทนั้น พ. ผู้ครอบครองรถยนต์จะใช้สิทธิการซ่อมตามประกันภัยของตน
ส่วนความเสียหายจากเหตุประมาทได้เรียกร้องจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 15,000 บาท ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่ พ. แล้ว ไม่ติดใจดำเนินคดีกับฝ่ายจำเลยที่ 1 แสดงว่า พ. ผู้ครอบครองรถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้ประสงค์ที่จะให้โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดีดังเดิมตามสัญญาประกันภัย
ส่วนความเสียหายจากเหตุประมาทที่เรียกร้องจากจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 15,000 บาทนั้น เป็นกรณีที่ พ.
เรียกร้องค่าเสียหายอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าสินไหมทดแทนในการซ่อมรถยนต์ ดังนั้น
ข้อตกลงดังกล่าวไม่ทำให้สิทธิในการเรียกร้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสิ้นสุดลงอันเป็นการระงับข้อพิพาทตามลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความ
เมื่อโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้จัดการซ่อมแซมรถยนต์พิพาท
โจทก์ย่อมรับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยที่จะเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments