โดนคู่สมรสหมิ่นประมาทเหยียดหยามหรือด่าทอพ่อด่าแม่ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

เหตุฟ้องหย่าตามกฎหมายไทยมีได้หลายประการ หนึ่งในนั้นคือการทำร้าย ทรมาน หมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(3) ด้วย แต่ทั้งนี้ การด่าทอหรือหมิ่นประมาทบุพการีของคู่สมรสนั้น ต้องเป็นกรณีที่โจทก์(ฝ่ายที่ถูกฟ้องหย่า) ถูกกระทำอยู่แต่ฝ่ายเดียว และเรื่องการร้ายแรงจึงจะมีสิทธิฟ้องหย่าได้ แต่ถ้าเป็นการทะเลาะเบาะแว้งด่าทอกันและกัน จะไม่สามารถฟ้องหย่าด้วยเหตุหมิ่นประมาทได้ แต่อาจเป็นเหตุทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภรรยากันอย่างร้ายแรง ซึ่งสามารถฟ้องหย่าได้เช่นกัน

อนึ่ง การด่าทอหมิ่นประมาทคู่สมรสที่พอจะฟังเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้นั้น ต้องเป็นการด่าทอหมิ่นประมาทในสภาพจิตใจปกติ ไม่ใช่เกิดจากอารมณ์โทสะชั่ววูบหรือเหตุบกพร่องทางสุขภาพจิตด้วย หรือเรียกได้ว่า มีการด่าทอ หมิ่นประมาท เหยียดหยามน้ำใจคู่สมรสของตัวเองเป็นอาจิณนั่นเอง

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา

          (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2396/2517) จำเลยด่าโจทก์และมารดาโจทก์ว่ามารดาโจทก์เป็นคนดอกทองและโจทก์เป็นลูกคนดอกทอง มารดาโจทก์จะชักชวนให้โจทก์ไปเป็นคนดอกทอง ซึ่งพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2493ได้นิยามคำว่า 'ดอกทองไว้ว่า หมายถึงหญิงใจง่ายในทางประเวณี คำด่าดังกล่าวของจำเลยจึงเป็นการด่ามารดาโจทก์เป็นหญิงใจง่าย ในทางประเวณีและมารดาโจทก์จะชักชวนให้โจทก์ไปเป็นหญิงใจง่าย ในทางประเวณี อันเป็นการหมิ่นประมาทมารดาโจทก์อย่างร้ายแรงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2)(เดิม) โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยได้

          (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290/2514) สามีด่าหมิ่นประมาทบิดาของภริยาว่า "โคตรของหลวงสมานนี้เลวทั้งโคตรคบไม่ได้" ดังนี้ นับว่าเป็นการหมิ่นประมาทบุพการีของภริยาซึ่งเป็นการร้ายแรงตามกฎหมายแล้ว ภริยายกขึ้นเป็นเหตุฟ้องหย่าได้

          (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2511) โจทก์จำเลยทะเลาะกันด่ากัน. โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เพื่อยกเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่

          (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2511) จำเลยเขียนข้อความในเอกสารหมาย จ.ว่า โจทก์เป็นคนดอกทอง. จำเลยมีปากเสียงกับโจทก์บ่อยๆ 3 วันครั้งบ้าง 5 วันครั้งบ้าง เพราะระแวงว่าโจทก์ไปติดต่อกับชายอื่น. แม้ในวันแต่งงานเมื่อจำเลยทราบว่าโจทก์ไปรับของขวัญจากชายอื่นจำเลยไม่พอใจมาก. พอตกกลางคืนก็ว่าโจทก์คงทำมิดีมิร้าย คือ คงจะได้เสียกับชายอื่น. ต่อมาอีก 2-3 วันก็ว่าโจทก์อีก และว่าโจทก์ดอกทอง เป็นผู้หญิงไม่ดี. จำเลยด่าว่าโจทก์บ่อยๆ กับว่าถึงพ่อแม่โจทก์ว่าไม่ดี ไม่สั่งสอนลูกด้วย. ดังนี้ เห็นว่าที่จำเลยด่าโจทก์เพราะโจทก์ไปรับของขวัญจากชายอื่นในวันแต่งงานกับจำเลย. จำเลยข้องใจเชื่อว่าโจทก์คงได้เสียกับชายคนนั้น จึงว่าโจทก์ว่าคงได้เสียกัน. ต่อมาก็ว่าโจทก์ทำนองเดียวกันอีก. ที่จำเลยด่าโจทก์ว่า คนดอกทอง มีความหมายว่าโจทก์ประพฤติตนเป็นหญิงใจง่ายในทางประเวณี มิใช่เป็นเพียงผรุสวาจา. และมิใช่เป็นการด่าว่าด้วยมีโทสะจริตวู่วามขึ้นมาขณะหนึ่ง.หากแต่จำเลยด่าว่าโจทก์บ่อยๆ ซึ่งย่อมเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายทางจิตใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นๆ. เช่นนี้ การกระทำของจำเลยตั้งแต่ต้นจนถึงในที่สุดรวมกันชี้ให้เห็นว่าเป็นการกระทำด้วยเจตนาหมิ่นประมาทโจทก์และเป็นการร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2)(เดิม).

          (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2517) ภรรยาซึ่งเป็นโรคจิตเภท โกรธสามีเนื่องจากสามีมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นและคืนเกิดเหตุ ยากันยุงไหม้ผ้าห่มนวมที่ภรรยาห่มภรรยาเข้าใจว่าสามีจะเผาตน ได้รับความกดดันทางจิตอย่างรุนแรงจนโรคจิตกำเริบถึงขนาดคลุ้มคลั่ง ได้ด่าสามีในขณะนั้นว่า 'อ้ายสัตว์เดรัจฉาน สัตว์เดรัจฉานยังดีกว่ามึงอีกเมื่อบิดามารดาสามีเข้ามาห้าม ก็ด่าบิดาสามีว่า 'อ้ายไหหลำ มึงอย่ามายุ่งเกี่ยวด้วยเลย'และด่ามารดาสามีว่า 'อีแก่อย่ามายุ่งกับกูดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทสามีและบุพการีของสามีอย่างร้ายแรง อันเป็นเหตุให้สามีฟ้องหย่าได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2)(เดิม)

ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer



แบบฟอร์มปรึกษากฎหมาย/คดีความ

กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทีมงานจะตอบคำถามท่านภายใน 3 วัน

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 630,668