หากมีบุคคลใดแอบนำบัตรประชาชนหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่น เอาไปใช้จนเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นนั้นหรือประชาชนทั่วไป มีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา

เอกสารสำคัญนั้นบางทีก็สูญหายไม่ว่าจะด้วยความประมาทหรือด้วยความไม่ระวังหรือถูกขโมยนั้น หากมีผู้ใดนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายหรือเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นนั้น เจ้าของเอกสารสำคัญนั้นสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารสิทธิเช่น ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีเงินฝาก บัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น

ตัวอย่าง นาย ก ทำกระเป๋าสะพายหายทำให้บัตรประจำตัวประชาชนได้สูญหายไปด้วย นาย ข ซึ่งเป็นผู้เก็บได้ จึงนำบัตรประจำตัวประชาชนของนาย ก ถ่ายเอกสารแล้วนำไปปลอมลายมือชื่อสมัครชิมการ์ดโดยได้ใช่เอกสารที่ปลอมแปลง ทำให้มียอดเรียกเก็บค่าใช้บริการส่งไปยังนาย ก ทำให้เกิดความเสียหายต่อนาย ก จึงนำเรื่องมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจได้

อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21183/2556 การที่จำเลยแอบอ้างขอสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนจากผู้เสียหายที่ 1 ถึงที่ 15 โดยอ้างว่าจะนำไปเข้าร่วมโครงการต่อต้านยาเสพติดให้โทษ แต่กลับนำไปใช้เป็นเอกสารยื่นคำขอและทำสัญญาเช่าใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับผู้เสียหายที่ 16 การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และฐานฉ้อโกงตาม ป.อ. มาตรา 188 และ 341