พินัยกรรมที่ทำขึ้นโดยพิมพ์ดีดทั้งฉบับ เป็นพินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับหรือเป็นพินัยกรรมแบบธรรมดา

พินัยกรรมที่ทำขึ้นโดยพิมพ์ดีดทั้งฉบับ เป็นพินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับหรือเป็นพินัยกรรมแบบธรรมดา

 

          พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1657 นั้น มีหลักเกณฑ์สำคัญว่า ผู้ทำพินัยกรรมจะต้องเขียนข้อความทั้งหมดด้วยลายมือของตนเองเพราะเป็นการทำพินัยกรรมเองโดยลำพัง ไม่มีผู้อื่นเกี่ยวข้อง จึงไม่ต้องมีพยานรู้เห็นในการทำพินัยกรรม

 

กฎหมายจึงบัญญัติให้ผู้ทำพินัยกรรมต้องเขียนด้วยมือตนเองซึ่งข้อความทั้งหมด ลงวัน เดือน ปีและลงลายมือชื่อของตนเองด้วย ทั้งนี้เพราะแม้ผู้ทำพินัยกรรมได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว หากมีข้อโต้แย้งก็อาจพิสูจน์ลายมือเขียนหนังสือของผู้ทำพินัยกรรมได้ว่า ใช่ลายมือของผู้ทำพินัยกรรมหรือไม่ใช่

 

          ซึ่งต่างจากการใช้เครื่องพิมพ์ดีด ถึงแม้ผู้ทำพินัยกรรมจะเป็นคนพิมพ์ข้อความทั้งหมดในพินัยกรรมเองก็ตาม แต่เมื่อไม่มีพยานรู้เห็นในการทำพินัยกรรมหากมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นว่าผู้อื่นเป็นคนพิมพ์หรือพิมพ์ไม่ตรงตามความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรมแล้วก็เป็นการยากที่จะพิสูจน์ว่าผู้ทำพินัยกรรมเป็นผู้พิมพ์ข้อความเองทั้งหมดได้

 

          ดังนั้น การทำพินัยกรรมแบบเขียนเอง จึงใช้พิมพ์ดีดไม่ได้เลยไม่ว่าจะพิมพ์ดีดทั้งหมดโดยผู้ทำพินัยกรรมเองหรือพิมพ์ดีดเฉพาะบางตอนหรือเฉพาะข้อความที่กรอกลงในช่องว่างก็ตาม

 

          คำพิพากษาฎีกาที่ 2102/2551

          พินัยกรรมที่ผู้ตายทำขึ้นโดยใช้พิมพ์ดีดทั้งฉบับ ย่อมไม่ใช่พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1657 คงเป็นแต่พินัยกรรมแบบธรรมดาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1656 ที่ต้องมีพยานรู้เห็นซึ่งมาตรา 1656 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่าผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน การที่พยานในพินัยกรรมพิพาทลงลายมือชื่อเป็นพยานภายหลังจึงขัดต่อบทบัญญัติดังกล่าวพินัยกรรมพิพาทย่อมตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1705

          พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1657 นั้น มีหลักเกณฑ์สำคัญว่า ผู้ทำพินัยกรรมจะต้องเขียนข้อความทั้งหมดด้วยลายมือของตนเองเพราะเป็นการทำพินัยกรรมเองโดยลำพัง ไม่มีผู้อื่นเกี่ยวข้อง จึงไม่ต้องมีพยานรู้เห็นในการทำพินัยกรรม กฎหมายจึงบัญญัติให้ผู้ทำพินัยกรรมต้องเขียนด้วยมือตนเองซึ่งข้อความทั้งหมด ลงวัน เดือน ปีและลงลายมือชื่อของตนเองด้วย ทั้งนี้เพราะแม้ผู้ทำพินัยกรรมได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว หากมีข้อโต้แย้งก็อาจพิสูจน์ลายมือเขียนหนังสือของผู้ทำพินัยกรรมได้ว่า ใช่ลายมือของผู้ทำพินัยกรรมหรือไม่ใช่ ซึ่งต่างจากการใช้เครื่องพิมพ์ดีดถึงแม้ผู้ทำพินัยกรรมจะเป็นคนพิมพ์ข้อความทั้งหมดในพินัยกรรมเองก็ตาม แต่เมื่อไม่มีพยานรู้เห็นในการทำพินัยกรรมหากมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นว่าผู้อื่นเป็นคนพิมพ์หรือพิมพ์ไม่ตรงตามความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรมแล้วก็เป็นการยากที่จะพิสูจน์ว่าผู้ทำพินัยกรรมเป็นผู้พิมพ์ข้อความเองทั้งหมดได้ ฉะนั้น การทำพินัยกรรมแบบเขียนเอง จึงใช้พิมพ์ดีดไม่ได้เลยไม่ว่าจะพิมพ์ดีดทั้งหมดโดยผู้ทำพินัยกรรมเองหรือพิมพ์ดีดเฉพาะบางตอนหรือเฉพาะข้อความที่กรอกลงในช่องว่างก็ตาม

ดังนั้น เมื่อพินัยกรรมเอกสารหมาย ล.2 ผู้ทำพินัยกรรมไม่ได้เขียนข้อความทั้งหมดด้วยลายมือเขียนของตนเอง แต่กลับใช้วิธีพิมพ์ดีดแทนนั้น จึงเป็นพินัยกรรมที่ทำขึ้นผิดแบบขัดต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา 1657 ย่อมตกเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1705 อีกทั้งจะฟังว่าพินัยกรรมเอกสารหมาย ล.2 เป็นพินัยกรรมแบบธรรมดาที่มีพยานรู้เห็นการทำพินัยกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1656 ก็ไม่ได้เพราะมาตรา 1656 วรรคหนึ่งบัญญัติว่า ผู้ทำพินัยกรรมต้องลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพร้อมกันซึ่งพยานสองคนนั้นก็ต้องลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรมไว้ในขณะนั้นเช่นกัน แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏว่า ว. ลงชื่อทำพินัยกรรมเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2533 แต่ ป. โจทก์และ ส. ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ได้ลงลายมือชื่อเป็นพยานระบุลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2538 จึงเป็นการลงลายมือชื่อเป็นพยานในภายหลัง ไม่ใช่เป็นการลงลายมือชื่อในขณะที่ ว. ทำพินัยกรรม เป็นการขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 1656 ย่อมตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1705 อีกเช่นกัน ดังนั้น พินัยกรรมเอกสาร ล.2 จึงเป็นพินัยกรรมที่ทำขึ้นโดยผิดแบบที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นแบบเขียนเองหรือแบบธรรมดา ย่อมตกเป็นโมฆะทั้งฉบับตามมาตรา 1705 จําเลยจึงไม่อาจอ้างว่าเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมเอกสารหมาย ล. 2 ขึ้นต่อสู้ได้


ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer


แบบฟอร์มปรึกษากฎหมาย/คดีความ

กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทีมงานจะตอบคำถามท่านภายใน 3 วัน

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 630,539