บุคคลที่ได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์โอนขายที่ดินให้แก่ผู้ซ้อ ผู้ซื้อครอบครองต่อมาย่อมได้กรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ต่อจากผู้ขายเดิม

          การครอบครองที่ดินทำกินนั้นอาจจะมีหลายคนบุกรุกเข้าไปทำประโยชน์ แล้วอ้างว่าเป็นที่ดินของตนเองทั้งๆ ที่ ที่ดินนั้นเป็นของผู้อื่นแต่ไม่ได้ทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ในขณะนั้น จึงบุกรุกเข้าไปครอบครอง หากเป็นที่ดินประเภท หนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) เพียง 1 ปีก็ได้สิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ หรือหากเป็นที่ดินมีโฉนดใช้เวลาครอบครองถึง 10 ปีจึงจะได้กรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์

          แต่หากเป็นกรณีที่เราทำการซื้อสิทธิ์การครอบครองนั้นต่อจากผู้ที่เข้าครอบครองอยู่ก่อนแล้วนั้นไม่ว่าจะเป็นที่ดินประเภท หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือมีโฉนดก็ตาม สิทธิ์นั้นย่อมส่งมอบแก่ผู้ซื้อได้ แม้ผู้ซื้อจะทราบว่าผู้ขายไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น นายดำได้ทำการครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยสงบ เปิดเผยและเจตนาเป็นเจ้าของ แต่ยังไม่ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลกลับโอนขายที่ดินให้นายขาว เพื่อนสนิทที่ได้แวะเวียนมาเที่ยวหาตลอด และรู้ถึงการครอบครองปรปักษ์นี้โดยชำระเงินค่าตอบแทนให้กัน การโอนสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ของดำแก่ขาวนั้นชอบแล้ว แม้นายขาวจะทราบถึงการครอบครองปรปักษ์ก็ตาม นายขาวสามารถยื่นคำร้องต่อศาลว่าได้กรรมสิทธิ์มาโดยการครอบครองปรปักษ์ได้ และสิทธิ์ที่ขาวได้มาย่อมใช้ยันกับเจ้าของที่ดินได้หากมีการฟ้องร้องขับไล่หรือทวงทรัพย์สินคืน

          อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1981/2556 ท. ครอบครองที่ดินพิพาทซึ่งเป็นบางส่วนของที่ดินที่จำเลยมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลาติดต่อกันกว่าสิบปีแล้ว ท. ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครอง เมื่อ ท. ขายที่ดินพิพาทให้โจทก์ในปี 2547 และโจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทติดต่อกันมาโดยตลอดมิได้ขาดตอนโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ แสดงว่า ท. เจตนาสละการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิครอบครอง และย่อมนับระยะเวลาที่ ท. ครอบครองที่ดินพิพาทติดต่อกับระยะเวลาที่โจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทเข้าด้วยกันได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1385 เมื่อนับเวลาการครอบครองที่ดินพิพาทของ ท. รวมเข้าด้วยแล้วโจทก์จึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

          ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ไม่ได้บัญญัติว่า การได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์โดยการครอบครองจะต้องเป็นการครอบครองโดยเจตนาที่สุจริต คงบังคับไว้แต่เพียงว่าให้ผู้ครอบครองนั้นครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ แม้ผู้ครอบครองจะรู้ว่าที่ดินที่ครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลอื่นก็ตาม

ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer



แบบฟอร์มปรึกษากฎหมาย/คดีความ

กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทีมงานจะตอบคำถามท่านภายใน 3 วัน

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 630,428