เก็บของที่หล่นจากรถ เจ้าของไม่ติดใจตามหาเอาคืนไม่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของหาย

หลายๆ ท่านตามชนบทที่มีบ้านอยู่ข้างทางถนนหลวงหรือทางสาธารณะนั้น หากกรณีเก็บของหล่นจากรถได้ และเจ้าของสิ่งของนั้นไม่ทราบจุดที่ของนั้นหล่นหาย แต่ยังติดใจที่จะตามหาเอาคืน หากปรากฏว่าเจออยู่ที่ใครแล้วเจตนาไม่ส่งของคืน คนที่เก็บของไว้มีความผิดตามกฎหมายอาญาข้อหายักยอกทรัพย์ของหาย

                ตัวอย่าง นางเอ๋กับนายอ๋องได้ขับรถเพื่อที่จะไปพักผ่อนบนเขาที่อุทยานเขาใหญ่ โดยรถที่ขับไปได้มีการขนสัมภาระไว้บนหลังคาเสริมเหล็กติดกับตัวรถ และได้มีการคลุมกระเป๋าและทรัพย์สินต่างๆ ไว้ ปรากฏว่าระหว่างทางนั้นได้มีกิ่งไม้เกี่ยวเอาผ้าที่คลุมสัมภาระนั้นหลุดออก ทำให้สิ่งของตกหล่นข้างทาง ต่อมามีนายสนิทซึ่งเป็นชาวบ้านทำไร่ไถนาอยู่ระหว่างทาง ได้เจอเสื้อกันหนาวตัวหนึ่งเกี่ยวอยู่กับกิ่งไม้ข้างทาง ซึ่งเสื้อตัวดังกล่าวของนายอ๋องมียี่ห้อ GUCCI ซึ่งมีราคาหลายหมื่นบาท จึงเก็บไปให้กับเมียตัวเองซึ่งเห็นว่าสวยดีไม่รู้เป็นของใคร ไม่ได้นำไปแจ้งความหรือฝากไว้กับตำรวจและนายอ๋องได้ติดตามหาเสื้อตัวดังกล่าวอยู่

อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8634/2555 ก. ตรวจค้นพบลูกกุญแจของกลางที่ตัวจำเลย เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 หลังจากวันที่จำเลยอ้างว่าเก็บลูกกุญแจของกลางได้สองวัน ทั้งที่จำเลยทราบดีว่ามีการพยายามติดตามหาเนื่องจากเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการรักษาความปลอดภัยในโรงแรม จึงฟังได้ว่าจำเลยเบียดบังลูกกุญแจของกลางซึ่งเป็นทรัพย์สินหายดังกล่าวไว้โดยทุจริต แม้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร แต่ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคสอง จึงเป็นข้อแตกต่างในรายละเอียดมิใช่ต่างกันในข้อสาระสำคัญ และไม่ถือว่าเกินคำขอหรือเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ เมื่อจำเลยมิได้หลงต่อสู้เนื่องจากนำสืบรับข้อเท็จจริงในส่วนนี้ ศาลฎีกาจึงลงโทษจำเลยฐานยักยอกได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 192 วรรคสาม ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225

          ดังนั้นการกระทำของนายสนิทมีข้อหายักยอกทรัพย์ของหายซึ่งเจตนาที่จะไม่ตามหาหรือส่งทรัพย์นั้นคืน โดยเจ้าของยังติดตามที่จะเอาทรัพย์สินคืนอยู่ เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา

          มาตรา 352  “ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด หรือเป็นทรัพย์สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียงกึ่งหนึ่ง

        ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer


แบบฟอร์มปรึกษากฎหมาย/คดีความ

กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทีมงานจะตอบคำถามท่านภายใน 3 วัน

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 630,593