ผู้ใดยินยอมให้นำชื่อ-สกุลเป็นชื่อห้างหุ่นส่วน ผู้นั้นต้องร่วมรับผิดกับห้างฯ
กิจการประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด
เมื่อจดทะเบียนแล้วจะถือว่ามีสภาพเป็นบุคคล ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่านิติบุคคล
ในปัจจุบันการประกอบธุรกิจในรูปแบบของห้างหุ้นส่วนจำกัดยังมีความแพร่หลายอยู่ไม่น้อย
ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัดมีลักษณะสำคัญ คือการแบ่งผู้เป็นหุ้นส่วนออกเป็น 2 จำพวก ได้แก่
1. หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด
คือหุ้นส่วนจำพวกที่รับผิดไม่เกินจำนวนเงินที่ตนเองลงหุ้น
2. หุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด
คือหุ้นส่วนจำพวกรับผิดในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัดจำนวน (ป.พ.พ. 1078)
ซึ่งนอกจากหลักกฎหมายข้างต้นแล้วนั้น
ยังมีข้อยกเว้นให้ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด
ต้องรับผิดร่วมกันกับห้างหุ้นส่วนในกรณีที่ห้างหุ้นส่วนทำให้บุคคลภายนอกเสียหาย
หากว่าผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด ยินดีหรือยินยอมให้นำชื่อ หรือ
นามสกุล ของตนไปใช้หรือเป็นส่วนหนึ่งของชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นๆ
ตัวอย่างเช่น นายร่ำรวย
เงินมั่งมี กับ นายเขียว เปรี้ยวจี๊ด ตกลงทำธุรกิจร่วมกันโดยจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด
โดนให้นายเขียว เปรี้ยวจี๊ด เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ
(หุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด) และให้นายร่ำรวย เงินมั่งมี
เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดตามจำนวนเงินที่ลงทุน แต่นายเขียว เปรี้ยวจี๊ด
เห็นว่า ชื่อของนายร่ำรวย เงินมั่งมี เป็นชื่อที่ดี ประกอบกับนายร่ำรวย
เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงน่าจะทำให้ห้างฯเป็นที่รู้จักได้โดยเร็ว นายเขียว
เปรี้ยวจี๊ด จึงขอนำชื่อนายร่ำรวย เงินมั่งมี ใช้เป็นชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด
โดยนายร่ำรวย เงินมั่งมี ตกลงยินยอม หากว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวใช้ชื่อว่า
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่ำรวย หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เงินมั่งมี หรือ
ชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัด ร่ำรวยรุ่งเรือง
หากเป็นเช่นนั้นจากนายร่ำรวยผู้เป็นหุ้นประเภทจำกัดความรับผิด
จะเปลี่ยนฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้ไม่จำกัดความรับผิดทันที และเมื่อใดห้างฯเกิดเป็นหนี้ค้าสินค้า
หรือถูกฟ้องคดีให้ชดใช้ค่าเสียหาย นายร่ำรวย
ต้องร่วมรับผิดกับห้างฯโดยไม่จำกัดความรับผิดแต่อย่างใด
ดังความปรากฏตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1081 ห้ามมิให้เอาชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดมาเรียกขานระคนเป็นชื่อห้าง
มาตรา 1082
ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดคนใดยินยอมโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้างไซร้
ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนกังว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดฉะนั้น
ซึ่งตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พ.ศ. 2554
คำว่า “ระคน” หมายความว่า
การปนหรือผสมให้เข้ากันคละกันเป็นกลุ่มเป็นพวกเป็นต้น ดังนั้นในตัวบทกฎหมาย
การนำชื่อตนไประคน จึงหมายถึง
การยินยอมให้นำชื่อไปปะปนหรือผสมกับห้างหุ้นส่วนจำกัดนั่นเอง
มีคำพิพากษาฎีกาเกี่ยวข้องดังนี้
ฎีกา 2626/2548 จำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นสามีภริยา และเป็นหุ้นส่วนเพียง 2 คนในห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดและหุ้นส่วนผู้จัดการ
จำเลยที่ 3 เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด
จำเลยที่ 3 ยอมให้จำเลยที่ 2 นำชื่อของตนไประคนเป็นชื่อห้างจำเลยที่ 1 แต่แรกเริ่มจัดตั้งห้างจำเลยที่ 1 และได้ร่วมกันกู้เงินธนาคารมาก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันและเป็นทุนดำเนินกิจการของห้างจำเลยที่ 1 มาแต่ต้น จำเลยที่ 3 จึงต้องร่วมรับผิดกับ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่อโจทก์เสมือนหนึ่งเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1082
ฎีกา 1286/2532 คำว่า"ชื่อ"ตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1081 และ1082 ย่อมหมายถึง
ชื่อสกุลด้วย เมื่อจำเลยที่ 4 ที่ 5 ซึ่ง
เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดยอมให้ใช้ ชื่อสกุลของตน ระคนเป็นชื่อ ห้าง
จำเลยที่ 4 ที่ 5 จึงต้อง รับผิดต่อ โจทก์ซึ่ง
เป็นบุคคลภายนอกเสมือนเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด
ฎีกา 1422/2536 คำว่า "ชื่อ" ในบทบัญญัติ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1081,1082 หมายถึง ชื่อตัว ชื่อรอง หรือชื่อสกุล
อันเป็นชื่อเต็มของผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดมิใช่ส่วนหนึ่งส่วนใดของชื่อ
หรือพยางค์หนึ่งของชื่อ
เว้นแต่เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าชื่อบางส่วนหรือพยางค์หนึ่งของชื่อนั้นเป็นคำที่เรียกขานเป็นชื่อของผู้เป็นหุ้นส่วนดังกล่าว
จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำกัดความผิดของห้างจำเลยที่ 1มีชื่อว่า "วิริยะ"
เพียงแต่ยอมให้ห้างจำเลยที่ 1 ใช้คำว่า"วิ" มาระคนเป็นชื่อห้าง
โดยไม่ต้องปรากฏข้อเท็จจริงชัดแจ้งว่า คำว่า "วิ"
นั้นเป็นที่รู้กันทั่วไปว่าหมายถึงชื่อของจำเลยที่ 4 จึงยังไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว
จำเลยที่ 4จึงไม่ต้องร่วมกับจำเลยอื่นรับผิดต่อโจทก์
เมื่อเข้าใจความหมายของหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดและพิจารณาคำพิพากษาศาลฎีกาข้างต้นแล้ว
ท่านผู้อ่านที่เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัดต่างๆ
ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจยินยอมให้ห้างหุ้นส่วนนำชื่อ หรือ
นามสกุลของท่าน ไปใช้เป็นชื่อห้างหุ้นส่วน แม้ว่าชื่อ หรือ
นามสกุลของท่านจะส่งผลกับการตลาดก็ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง
เพราะหากความเสียหายเกิดขึ้น ผลเสียมากมายที่ตามมาท่านต้องรับผิดร่วมกับห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นๆด้วย
ปรึกษากฎหมายโทร
080-9193691
, 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ
คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments