แชร์ล้ม เปียเงินไม่ได้ เท้าแชร์ไม่มีความผิดฐานยักยอกหรือฉ้อโกง

        การเล่นแชร์นั้น  หากมีลักษณะตามพ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 กล่าวคือ “สมาชิกวงแชร์ แต่ละคนมีภาระที่จะส่งเงินหรือทรัพย์สินอื่นใด รวมเข้าเป็นทุนกองกลางเป็นงวด ๆ เพื่อให้สมาชิกวงแชร์หมุนเวียนกันรับทุนกองกลางแต่ละงวดนั้น ไปโดยการประมูลหรือวิธีอื่น” กรณีดังกล่าว มีลักษณะเป็นการก่อสิทธิและหน้าที่ให้กับสมาชิกวงแชร์ และเท้าแชร์ ย่อมมีทำนิติกรรมในทางแพ่ง หากสมาชิกไม่ส่งเงินเข้าเป็นทุนกองกลาง หรือเท้าแชร์ไม่จัดสรรให้มีการหมุนเวียนกันรับทุนกองกลาง ก็เป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างผิดสัญญา ไม่ทำหน้าที่ของตน ซึ่งเป็นเรื่องผิดสัญญา  ผู้เสียหายสามารถฟ้องแพ่งเรียกให้เท้าแชร์ หรือสมาชิกแชร์วางเงินได้ แต่ไม่ใช่เรื่องฉ้อโกง หรือยักยอก อันเป็นความรับผิดทางอาญาที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926/2544

        เงินค่าแชร์แต่ละงวดที่ผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมส่งให้จำเลย เมื่อผู้ใดประมูลแชร์ได้ ก็จะตกได้แก่ผู้นั้น กรรมสิทธิ์ในเงินที่ส่งไปแล้วมิได้เป็นของผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมต่อไปอีกและหากผู้เสียหายทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ร่วมไม่สามารถประมูลแชร์ได้เพราะแชร์ล้มเลิก ไม่ว่าด้วยเหตุใด จำเลยในฐานะที่เป็นเจ้ามือแชร์ก็ต้องรับผิดแทน ซึ่งเป็นความผิดในทางแพ่งจำเลยไม่มีความผิดฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2532

        ความผิดฐานฉ้อโกงเป็นความผิดที่มีผลเกิดขึ้นต่างหากจากการกระทำ คือต้องเป็นการได้ไปซึ่งทรัพย์สินโดยการหลอกลวง ดังนี้ การที่จำเลยได้ทรัพย์สินจากผู้เสียหายโดยการเล่นแชร์ ซึ่งเล่นกันจำนวน 90 มือ มีการประมูลแชร์และเก็บเงินจากผู้เล่นให้แก่ผู้ประมูลได้ถึง 57มือแล้ว ต่อมาจำเลยซึ่งเป็นหัวหน้าวงผิดนัด ไม่เก็บเงินจากผู้เล่นแชร์และไม่ดำเนินการประมูลแชร์ต่อไปตามหน้าที่ จึงเป็นการผิดสัญญาเล่นแชร์ซึ่งเป็นความผูกพันทางแพ่ง การกระทำของจำเลยหาเป็นความผิดฐานฉ้อโกงไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3112/2523

        พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงกับขอให้คืนเงินที่จำเลยได้ไปจากการฉ้อโกงแก่ผู้เสียหาย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่ามิใช่เป็นเรื่องฉ้อโกง แต่เป็นเรื่องผู้เสียหายและจำเลยสมัครใจเล่นแชร์ต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องความรับผิดทางแพ่งล้วน ๆ หาใช่เป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาไม่ ดังนี้ เงินที่ผู้เสียหายชำระค่าแชร์ให้แก่จำเลยไป จึงมิใช่ทรัพย์สินที่ผู้เสียหายสูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิด พนักงานอัยการไม่มีสิทธิที่จะเรียกเงินเช่นนี้แทนผู้เสียหายได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43

        ดังนั้นเมื่อเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องทางอาญาแล้ว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือพนักงานสอบสวนได้ทำการทวงถามไป ก็อาจมีความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทวงถามหรือสนับสนุนการทวงถามหนี้ซึ่งไม่ใช่ของตน ตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้มาตรา 14(2) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย

        สำหรับการระดมทุนในลักษณะอื่น ที่ไม่ใช่การเล่นแชร์ตามพ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 เช่น ให้สมาชิกแต่ละคนรวมเงินกันเพื่อให้เท้าแชร์นำเงินไปลงทุน โดยเท้าแชร์จะให้ดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นซึ่งสูงกว่าสถาบันการเงินนั้น  มีลักษณะ เป็นการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หรือถ้าเท้าแชร์นำเงินกองกลางหนีไป หรือหลอกลวงเอาเงินไปจากสมาชิก โดยไม่ได้มีการแชร์จริง ก็เป็นความผิดทางอาญาได้เช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2510/2525

        จำเลยหัวหน้าวงแชร์หลอกลวงโจทก์ร่วมว่า ฉ. ลูกวงจะขายแชร์ซึ่งความจริง ฉ. ไม่ได้ขายแชร์ให้ผู้ใด ทำให้โจทก์ร่วมรับซื้อแชร์ดังกล่าวและจำเลยได้เงินค่าแชร์ไปจากโจทก์ร่วม ดังนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5883/2552

        จำเลยในฐานะนายวงแชร์มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงการเล่นแชร์ว่า เมื่อจำเลยได้เช็คจากลูกวงแชร์แล้วจะต้องนำเช็คไปมอบให้ ส. ซึ่งประมูลแชร์ได้ ดังนั้น การที่จำเลยรับเช็คตามฟ้องจึงเป็นการรับไว้แทน ส. เมื่อจำเลยนำเช็คไปเรียกเก็บเงินออกจากบัญชีจึงเป็นการครอบครองเงินของ ส. แล้วเบียดบังเอาเงินนั้นไป ส. จึงเป็นผู้เสียหายในความผิดฐานยักยอกเงินตามเช็ค

 

ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer



แบบฟอร์มปรึกษากฎหมาย/คดีความ

กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทีมงานจะตอบคำถามท่านภายใน 3 วัน
#1 โดย: ศุภิสรา [IP: 223.24.149.xxx]
เมื่อ: 2019-10-31 09:30:08
ขอคำชี้แนะ

ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 630,593